Puimek เขียน: <span style='color:red'>น้องปอนด์ คุณmarema</span> ขออนุญาตตอบพร้อมกันนะคะ
พี่ปุยไม่ใช่นักเขียนใหญ่หรือโด่งดังอะไรค่ะ แต่ทำงานเีขียนหนังสือ...ใช่แล้ว
พี่เขียนคอลัมน์ประจำให้นิตยสาร "กุลสตรี" กับ "สารคดี"
เขียนมาหลายปีแล้วค่ะ นอกนั้นก็ทำงานแปล หนังสือแปลที่วางในตลาด
มีมากกว่างานเขียนที่พิมพ์เป็นเล่ม (ถ้าไม่นับคอลัมน์ในนิตยสาร)
ช่วงนี้งานแปลที่ยังวางตลาดอยู่ก็คือ "รามายณะ"
ส่วนงานเขียนก็คือรวมบทความที่เคยพิมพ์ในสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์
ชื่อ "เนปาลในม่้านเมฆ" นี่ล่ะค่ะ ชื่อจริงที่ใช้ในงานเขียนและงานแปล
คือ "วรวดี วงศ์สง่า" ค่ะ หาอ่านได้เลย แล้วอย่าลืมติชมพี่ด้วยนะคะน้องปอนด์
เรื่องอาหารการกินในเนปาล แม้ว่าเขาจะมีขา่ยข้างทางแบบบ้านเรา
แต่ไม่อยากแนะนำให้ลอง เพราะความรู้เรื่องอนามัยของเขายังน้อย
อาจท้องเสียอย่างหนักได้ แนะนำให้กินในร้านอาหารที่อาจแพงขึ้นหน่อย
แต่ปลอดภัยกว่าค่ะ ถ้าใครจะไปเที่ยวเนปาลแน่ๆ เมลมาคุยได้เลยนะคะ
จะตอบให้อย่างละเอียดทุกเรื่องเลยค่ะ
บาหลี...ก็น่าเที่ยว ปุยก็ไปมาแล้วตอนอยู่อินโดนีเซีย
ตกหลุมรักบาหลีมาแล้วเหมือนกัน ถ้าไปบาหลีก็จะคล้ายๆ เนปาลที่สะอาด
บรรยากาศคล้ายกัน แต่ก็มีเสน่ห์ที่ต่างกัีนด้วย
ไปได้ทั้งสองที่เลยค่ะ ไปเมื่้อไหร่เมลมาคุยนะคะ
[email protected]ยินดีแนะนำให้ทุกเรื่องเท่าที่รู้เลยค่ะ
ปล. อาหารพื้นเมืองที่ควรชิมคือ "ดาล บ๊าต ตาการี" คือข้าวราดแกงถั่วและผัดผักเครืืองเทศ
กลิ่นไม่แรงเกินไป กำลังหอมอร่อยค่ะ แล้วก็มี "พาโกดา" เป็นคล้ายๆ ผักบดกับมันแล้วเอา
ไปทอด หน้าตาเหมือนทอดมัน แต่เป็นผักค่ะ
<span style='color:red'>คุณน้องเล้ง</span> สิบห้าปีที่แล้วกับตอนนี้ต่างกันเยอะค่ะ ที่กาฐมาณฑุไม่มีแล้ว ประเภทนั่งลงอึ
ต่อหน้าธารกำนัล แต่ที่อินเดียที่บังคลาเทศยังมีค่ะ พี่ก็เห็นมากับตา แทบกินข้าวไม่ลง
ด้วยความสะทกสะท้านใจ ไม่เชิงว่ารังเกียจ แต่นึกไม่ถึงว่าชีวิตคนเรามันต่างกันได้มาก
ถึงเพียงนี้... ขอทานขอเงิน เราไม่กล้าให้เพราะกลัวโดนรุมทึ้ง ปรากฏเขาทึ้งตัวเองเลย
ลงไปนอนกลิ้งบนเศษแก้วแตก เลือดไหลโทรม แล้วถามว่าแค่นี้พอจะทำให้เราให้เงินเขา
ได้ไหม พี่ต้องควักให้เกือบหมดกระเป๋า แล้วเดินหนีไปเลย...ไม่อยากไปอีกเลย
(บังคลาเทศ) ด้วยความหดหู่และรันทดใจเกินไป....แต่ที่กาฐมาณฑุดีกว่าเยอะ่ค่ะ...
ความยากจนเห็นได้ชัดเจนก็จริง แต่ไม่ถึงขั้นทำให้เราหดหู่แบบบังคลาเทศ...