วันนี้หะโหน่งไปที่ร้าน Fust มาไปยืนน้ำลายยืด แต่มันมีสิ่งๆนึงที่เปลี่ยนแปลงความคิดของโหน่งไม่ให้ซื้อน่ะค่ะ
เมื่อคืนโหน่งก้อไปอ้อนวอนสามีว่าอยากได้จริงๆนะ พรุ่งนี้ฉันจะเอาให้ได้นะ
แต่สามีก้อบอกว่าใช้ของแม่ผมไปไม่ได้เหรอ
หะโหน่งก้อเลยคิดว่า เออสงสัยคงไม่ให้ตูหรอก โหน่งก้อนอนหลับไปน่ะค่ะ
พอตื่นตอนเช้า โหน่งเจอเงินวางไว้ในครัว สี่ร้อยฟรังก์ พี่แกวางไว้ตระหง่าน ให้เมีย
ทีนี้เมียเริ่มสำนึกว่า "อืมทำไมผัวตูรักตูจังวะ"
แต่เมียก้อไม่วายนะ ไม่วายที่จะรีบขับรถตรงซิงเข้าเมือง
แต่ในใจก้อพูดว่า "ซื้อ ไม่ซื้อ ซื้อ ไม่ซื้อ"
ไปแวะกินข้าวกะลูกๆ ก้อยังคงนั่งคิดอยู่ กินไปคิดไป
หลังจากกินเสร็จให้ลูกเล่นคิดส์แลนด์สองชั่วโมงก่อน
เพราะเสร็จไปรับลูกก้อเลยต้องไปอีกห้างนึงเพื่อไปสอยเจ้าเครื่องนั้น
ถามคนขายเสร็จสรรพแล้ว แว๊วที่ร้านมันเจือกเสียปลั๊กไว้ อีนี่ก้อไม่รู้ไปกดลอง ใบพัดมันตีนิ้วเค้าอ่ะ เจ็บง่ะ แต่โอเคเครื่องมันแรง
ทีนี้มีลูกค้าคนอื่นมาถามป้าคนขาย หะโหน่งบอกเออๆเธอไปขายเค้าเหอะ ฉันขอตัดสินใจก่อน
สรุปโหน่งก้อเดินไปซื้อของกิน จากนั้นออกมาโหน่งก้อไม่ซื้อมัน
กลับมาบ้านเอาเงินมาคืนสามี สามีบอกว่าทำไมไม่ซื้อล่ะ โหน่งบอกว่าบางทีเงินนี้มันน่าจะเอาไปใช้อย่างอื่นมากกว่า แต่โหน่งคืนไปแค่สามร้อยห้าสิบ อิอิ โหน่งบอกห้าสิบฟรังก์นั่นตูกินอาหารกลางวันไป อิอิ (เหมือนจะเป็นคนดี)
อเล็กคว้าเงินคืนดังหนับ และหันมาจุ๊บเมียหนึ่งที แล้วบอกว่า "I love you very much" คริๆๆๆ เป็นเมียที่น่ารักมิคะ
เพราะใครรู้มิคะ "ป้าหนูนา" ไง เค้าเขียนไว้เมื่อวาน ถ้าใช้บ่อยๆมันก้อคุ้มนะ โหน่งเลยสำนึกได้ว่า เออถ้าวันนึงหะโหน่งเบื่อ แว๊วไม่ได้ใช้ มันก้อต้องตั้งตระหง่านเป็นอนุสาวรีย์อีกอ่ะ
รอใช้ของแม่เค้าให้บรรลัยแบบไม่สามารถซ่อมได้ก่อน แล้วค่อยซื้อใหม่ดีกว่า
เพราะเดี๋ยวมันก้อน่าจะมาเซลส์อีกแหละ แล้วอีกอย่างรอให้แม่สามีซื้อเป็นของขวัญคริสมาตปีอื่นๆดีกว่า อิอิ (เลวไหมอ่ะ จะเอาของขวัญคนแก่อีก หุๆๆๆ)
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ "จงใคร่ครวญกะเครื่องครัว ก่อนที่มันจะไม่มีที่จะเก็บ" อิอิ