ผัดเผ็ดสะตอ สะตอผัดกะปิ(D)

[พี่มิ้นท์]

มีแต่กุ้งไม่มีหมููค่ะ พอดีได้สะตอมาเพราะเพื่อนมาเยี่ยมเลยรีบผัด อร่อยสะใจที่สุด รููปไม่เหมือนของคุณนกใหญ่คงไม่ตัดคะแนนนะจ๊ะ

[แตง]

ทำหลายครั้งแล้วแต่เพิ่งได้ถ่ายรูปส่งการบ้านก็ครั้งนี้แหละ ต้องรีบถ่ายรูปก่อนถูกยกไปตั้งโต๊ะอาหาร ไม่อย่างนั้นไม่มีรูปส่งการบ้านอีก

[Sanhathai]

พอดีได้สะตอมาจากเมืองไทย ดันลืม เก็บในตู้เย็นไว้หลายวัน สลดหมดซะนี่ ก็เลยต้องกินสะตอนิ่มๆ แต่ก็ยังดี แก้ขัด รสชาติก็เผ็ดสะใจคนกินค่ะ สามีชอบกินสะตอมาก ต้องจิ้มแย่งสะตอกัน กุ้งกับไก่ไม่ค่อยสน สนแต่สะตอ กินเสร็จต้องรีบบ้วนปาก เดี๋ยวหอมแก้มกันไม่ได้

[Sanhathai]

ขอบคุณสำหรับสูตรนะคะพี่นก แต่นอกสูตรพี่นิดหน่อย เอมี่ไม่ได้ใส่กะปิลงไปค่ะ คนมันขี้ลืมนี่คะ

[ภัสสร]

นี่จ้ะน้องเอมี่ รูปสะตอในน้ำเกลือ แต่ไม่เค็มนะ กลิ่นสะตอไม่ฉุนเหมือนสะตอสดๆค่ะ พอกินได้สำหรับคนไกลบ้าน

[Sanhathai]

ตาก้านยาวติดอกติดใจสะตอ บอกให้ผัดให้กินอีก เอมี่ก็จัดให้ตามแบบภรรยาที่ดี เอาใจน่าดู เพราะใกล้วันเกิดแล้วนิ มีแผน แต่คราวนี้เปลี่ยนมาใช้เนื้อหมูจ้ะ สะตอเม็ดยังอวบๆเต่งตึง (แต่กลิ่นแรงมาก ขอบอก) อร่อยค่ะ

[Sanhathai]

อีกรูปนะคะ

[ณัชชา]

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>กุ้งผัดกะปิ (กุ้งผัดสะตอ) โดย... ณัชชา</span></span>

สืบเนื่องจากการเดินทางไปใต้มา ๑ อาทิตย์ ทำให้ตอนนี้อยากกินแต่อาหารใต้ ประกอบกับไปลองชิมกุ้งผัดกะปิของร้านคุณลุงผู้ใจดีแล้วติดใจ ก็เลยอยากลองทำกินเองที่บ้าน แต่ด้วยความที่ตุ๊กเป็นเด็กภาคกลางโดยแท้ อาหารจานนี้ก็เลยได้จากการเดาทั้งสิ้นค่ะ เพราะฉะนั้น พี่ๆ น้องๆ ชาวใต้ผ่านมา ก็อย่าหัวเราะเยาะกันนะคะว่าตุ๊กทำอะไรไม่ได้เรื่อง (ต้องออกตัวไว้ก่อน) มาดูหน้าตากันค่ะว่ากุ้งผัดกะปิของตุ๊กหน้าตาเป็นอย่างไร (แอบกระซิบดังๆว่างานนี้ใส่สะตอด้วยนะคะ)

[ณัชชา]

เครื่องปรุง

◊ กุ้งขาว ๒๐๐ กรัม
◊ สะตอ ๒๐๐ กรัม
◊ กะปิ ๑ ช้อนโต๊ะ
◊ หอมแดง (ไทย) ๓-๔ หัว
◊ พริกขี้หนู ๕-๖ เม็ด
◊ เกลือป่น (เอาไว้ปรุงเพิ่มหากเค็มไม่พอ)
◊ น้ำมันนิดหน่อย

วันนี้อาจจะมีรูปถ่ายน้อยไปนิดนะคะ เนื่องจากรีบค่ะ ขั้นแรกเราก็เอากะปิ หอมแดง และพริกขี้หนูตำให้เข้ากันนะคะ ต้องให้ละเอียดพอสมควรนะคะ (ห้ามเอาอย่างตุ๊กนะ) จะได้น่ากิน เสร็จเราตั้งกระทะให้ร้อนใส่น้ำมันนิดหน่อย พอน้ำมันเริ่มร้อนก็เอาเครื่องที่เราเตรียมไว้ลงไปผัดเลยจ้า

[ณัชชา]

พอเครื่องที่นำไปผัดหอมได้ที่แล้ว เราก็ใส่กุ้งลงไปผัดต่อ (กุ้งไม่ควรผัดนานนะคะ เพราะถ้าสุกเกินไปเนื้อกุ้งจะแข็งและไม่หวานค่ะ)

[ณัชชา]

เห็นว่ากุ้งใกล้จะสุกแล้วก็ใส่สะตอลงไปเลยค่ะ เติมน้ำซุปได้นิดหน่อย ชิมรสดูถ้าเค็มไม่พอก็เติมเกลือป่นลงไปได้นะคะ เสร็จแล้วก็ปิดไฟเลยจ้า (ตุ๊กจะไม่ผัดสะตอนานนะคะ เพราะชอบกินแบบกรอบๆ มากกว่า ผัดนานไปเละ ไม่อร่อยจ้า)

[ณัชชา]

ตักเสริฟค่ะ ดูใกล้ๆสำหรับคนชอบสะตอ

[ณัชชา]

มุมนี้เอาใจคนชอบกุ้งจ้า อาหารมื้อนี้ควรทำก็ต่อเมื่อท่านไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านหลังจากนั้น เพราะกะปิกับสะตอเมื่อรวมกัน กลิ่นจะแรงมากถึงมากที่สุด แล้วก็อย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวคนข้างๆผวา จะหาว่าไม่เตือน

[Sanhathai]

เนื่องจากได้สะตอมา ๒ ห่อ จัดการผัดเสียเลย ก่อนที่จะสลด เมื่อวันก่อนเพิ่งจะทานกุ้ง วันนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นเนื้อหมูแทนค่ะ เอมี่กะพริกขี้หนูไม่ถูกน่ะค่ะ ใช้ไปประมาณ ๗ เม็ดเอง รสชาติเลยไม่ค่อยเผ็ดอย่างที่ควรจะเป็น ทำครั้งแรกค่ะ มือใหม่ เดี๋ยววันหลังจะแก้ตัว พริกก็มีแต่พริกขี้หนูสวนสีเขียว ไม่มีสีแดง สีเลยมีแต่สีกะปิ ก้านยาวขอแจมด้วยหนึ่งคำ แต่เจอเราบอกไม่ให้กิน งอนตุ๊บป่องเลยไปสั่งพิซซ่ามากินแทน ขอบคุณคุณตุ๊กสำหรับสูตรนะคะ

[kiwi]

แอบไปทานที่ร้านอาหารมา พ่อครัวใจดีผัดให้ เลยเอามาฝากเพื่อนๆค่ะ