ครัวไกลบ้านได้ทำการปรังปรุงเวบไซต์ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นในระบบสมาร์ทโฟน และได้รวมข้อมูลเมนูอาหารและ สมาชิกจากทั้งเวบไซต์เก่าและใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกท่านไหนมีปัญหาไม่สามารถล็อกอินได้ ให้ทำการเปลี่ยนพาสเวิร์ดโดยคลิ๊กลิ้งค์นี้ ลืมรหัสผ่าน
ถ้าท่านใดมีชื่อสมาชิกมากกว่าหนึ่งชื่อแล้วต้องการรวมโพสทั้งหมดให้อยู่ในชื่อสมาชิกเดียว หรือมีปัญหาในการใช้เวบไซต์
สามารถส่งอีเมล์แจ้งรายละเอียดมาได้ที่ [email protected] หรือส่งข้อความได้ที่ user: sillyfooks

ถ้าชอบครัวไกลบ้าน อย่าลืมคลิ๊กไลค์เฟสบุ๊คให้ครัวไกลบ้านด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

"ในร่มเงาวังสระปทุม"

ห้องนี้เปิดไว้สำหรับให้อาสาสมัครช่วยงานเว็บครัวไกลบ้าน เพื่อใช้เป็นห้องทดลองตั้งกระทู้ แตกระทู้ รวมกระทู้ ฯลฯ สมาชิกมองไม่เห็นห้องนี้นะคะ หากไม่แน่ใจว่าจะจัดการกับคำสั่งต่างๆอย่างไร เชิญแวะฝึกหัดที่ห้องนี้ได้เลยค่ะ

โพสต์โดย churace » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 2:23 pm

รูปภาพ

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานเปิดนิทรรศการ "ในร่มเงาวังสระปทุม" ซึ่งมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จัดขึ้น เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 พ.ย. 50 ที่แกรนด์ ฮอลล์ ชั้น 1 สยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในปีนี้ พร้อมกันนี้ ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯบรรยายเรื่อง "ในร่มเงาวังสระปทุม" เกี่ยวกับที่มาที่ไปในการจัดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในครั้งนี้ พร้อมทั้งการจัดทำไดอารี่ขาย ซึ่งยังตรัสว่าหลังจากนี้เชิญชวนซื้อด้วย

ทั้งนี้ ในความตอนหนึ่งของการบรรยาย ทรงกล่าวถึงความเป็นมาของวังสระปทุมว่า มีเรื่องเล่าว่าเป็นที่ พักผ่อนพระอิริยาบถตั้งแต่ ร.4 พอถึงปลาย ร.5 ถึง ร.6 มีหลักฐานว่า ร.5 ทรงเขียนไว้เป็นพินัยกรรมให้ ร.6 ที่จะเป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ต่อไปช่วยเป็นผู้จัดการมรดก สิ่งไหนจัดให้พระโอรสองค์ใดก็แยกกันไป วังสระปทุมโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ซึ่งขณะนั้นทรงศึกษาอยู่ที่ประเทศเยอรมนี หลังจากนั้น สมเด็จพระศรีสวรินทรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เสด็จมาประทับอยู่ก่อน มีหลายตำหนัก มีตำหนักใหญ่คือ ตำหนักเหลือง แต่ไม่รู้ที่มาของสีเป็นมาอย่างไร มีสีเหลือง เขียว เทา และตำหนักใหม่ล่าสุด มีอายุแก่กว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่ถือว่าใหม่สุดขีดของที่นี่

ตำหนักเหลือง มีประวัติศาสตร์อันสำคัญคือเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาฯ รวมทั้งสวรรคตที่นี่ด้วย และเป็นที่พระราชทานน้ำสังข์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถือเป็นตำหนักประวัติศาสตร์ ต่อมาสมเด็จย่ามาประทับจนสิ้นพระชนม์ จากนั้นไม่มีใครมาพักอาศัย กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯให้ไปอยู่ โดยมีจุดมุ่งหมายคือ อยากให้ดูแล และทำพิพิธภัณฑ์แสดงพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระพันวัสสาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนไม่ค่อยรู้กัน ทั้งๆที่มีหลักฐานอยู่มากมาย เช่น เป็นผู้บริจาคเงินรายแรกของ รพ.ศิริราช ทำโรงสี ทำโรงทอผ้า เป็นนักธุรกิจหญิงเก่าแก่ดั้งเดิม ทำประกันชีวิต ประกันภัย ไม่น่าเชื่อว่าคนสมัยนั้นมีความคิดกว้างขวางได้ขนาดนั้น</span>
churace
 

โพสต์โดย churace » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 2:25 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ลำดับต่อมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรยายถึงชื่อวังสระปทุม ที่แต่เดิมมีบัววิคตอเรียปลูกอยู่ในบ่อ ต่อมามีการนำบัวลงใส่ในสระ แต่กลับถูกปลากินหมด และเมื่อนำปลาไปไว้ในโอ่งแทน กลับมีศัตรูพืชชนิดใหม่คือสุนัข นอกจากสุนัข ยังมีปลาทองอีกหลายชนิดที่เลี้ยงไว้ในสระน้ำ รวมทั้งยังมีบัวที่ปลูกอยู่ในอ่างน้ำ แต่บัวพวกนี้ก็จะถูกเจ้าสุนัขลงไปว่ายน้ำทับบัวกดจมน้ำลงไปหมด

รูปภาพ

"บัวพวกนี้ไม่ได้โง่เอง แต่เพราะถูกสุนัขไปกดให้มันจมน้ำ ครอบครัวของเจ้าทิฟฟี่ชอบกินน้ำในอ่างบัวมาก ทำให้บัวปลูกเท่าไหร่ก็ไม่เป็นเสียที นอกจากนี้ยังมีสัตว์ทั้งนก งู งูเหลือม และงูหลาม ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าเป็นงูชนิดใด พอเปิดพจนานุกรมดูก็บอกว่า งูเหลือมมีลักษณะคล้ายงูหลาม เลยไม่แน่ใจว่า เป็นงูชนิดใดกันแน่ ภายหลังต้องสั่งให้เจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์เขาดินนำงูไปปล่อยที่อุทยานเขาใหญ่เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อสุนัข

ซึ่งต่อมาพระองค์ก็ทรงกล่าวถึงที่มาของสุนัขทรงเลี้ยงในวังสระปทุมบางตัวเป็นสุนัขจรจัดบ้าง ผู้อื่นนำมาปล่อยบ้าง เช่น สุนัขชื่อทิฟฟี่ ที่ผู้มาเยือนชาวเยอรมันนำมาปล่อย โดยบอกว่าไม่ชอบอาบน้ำ แต่พอเจอสระก็โดดลงน้ำทันที รวมถึงสุนัขทรงเลี้ยงที่ชื่อ วิก กับวาเป๊ก ที่ตำรวจนำมา และแป๊ะฮวยอิ๊ว สุนัขพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ที่พ่อเป็นสุนัขทรงเลี้ยงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แม่เป็นสุนัขของผู้กำกับตำรวจ ชอบให้อุ้มตลอด

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงกล่าวถึงสุนัขชื่อ ทิฟฟี่ ด้วยว่า ชอบเล่นให้ไปเก็บฟุตบอล ตอนหลังทิฟฟี่เปลี่ยนจากเก็บลูกบอลมาเก็บมะม่วง จะคาบเม็ดไว้ที่ปาก ใครมาแย่งก็กลืนทันที จนมีโศกนาฏกรรมกับลูกทิฟฟี่ ชื่อมะระ กินเม็ดมะม่วงไปบาดลำไส้ทำให้ลำไส้ขาด ส่งไปผ่าตัดใช้เวลา 5 ชั่วโมงครึ่ง ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล 3 ตัวพ่อแม่ลูกชอบลงน้ำ เอาน้ำธรรมดาให้กินก็ไม่เอา ชอบกินน้ำรากบัว ที่นี่มีบัวหลายชนิด มีทั้งบัวปริ่มน้ำ บัวจมน้ำ ไม่ใช่ว่าเขาโง่ แต่เป็นเพราะสุนัขกดน้ำ

นอกจากนั้น มีสัตว์อื่นๆ มีงูอยู่หลายชนิด ทั้งเหลือม ทั้งหลาม สัตว์ที่มีมากอีกอย่างเป็นแมว ไม่รู้ว่าแมวใคร แต่ชอบถ่ายรูป เดินมาตัวเดียวก็หยุดถ่ายรูป เดินมาหลายตัว 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว ก็หยุดถ่ายรูป นอกจากนั้นยังมีกระรอกถ่ายยากมาก เขาเร็ว กระรอกชอบชิมผลไม้ เราไม่ได้หวง แต่เขากินแบบไม่มีมารยาท กินแบบบุฟเฟ่ต์เลอะเทอะ วันดีคืนดีชอบไปเดินเล่นบนสายไฟฟ้า ตัวก็ดำเป็นตอตะโก ไฟดับทั้งวัง สงสารแต่ก็ยุ่งวุ่นวายพอตัว แล้วก็มีกิ้งกือ ไส้เดือน หอยทาก</span>
churace
 

โพสต์โดย churace » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 2:28 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ทั้งนี้ วันหนึ่งได้ดูทีวีแล้วเห็นปลาทอง จึงอยากจะเลี้ยงปลาทองเหมือนในหนังเรื่องเบบ แล้วมีคนนำปลาทองมาให้ แต่ไม่ได้เอามาตัวเดียวเหมือนในหนัง ตอนนี้ออกลูกหลายร้อยตัว นอกจากนี้กรมประมง ได้นำปลาเทวดามาให้เลี้ยงอีกหลายพันธุ์ ความจริงแล้วที่ใครบอกว่าปลาทองไม่มีสมองนั้น ไม่เป็นความจริง จากที่เราเลี้ยงมา พอนำอาหารมาแค่ถือก็มาจ่อกันเต็ม ใครว่าปลาทอง ไม่มีสมองไม่จริง ดูจากพฤติกรรมปลาทองมีสมองมาก

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงกล่าวในช่วงท้ายของการบรรยายด้วย "สิ่งที่จะทำต่อไปคือ เราต้องการทำให้วังสระปทุม มีความร่มรื่น เป็นธรรมชาติ มีต้นไม้นานาพันธุ์ มีทั้งต้นไม้เก่าและใหม่ ซึ่งจะอนุรักษ์ให้คงอยู่กับวังแห่งนี้สืบต่อไป ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า วังสระปทุมนั้นเป็นเหมือนประวัติศาสตร์ของราชวงศ์จักรี ควรจะอนุรักษ์ให้คงอยู่สืบไป ตอนที่สร้างห้างสยามพารากอน ก็มีการตัดต้นไม้มากมาย ซึ่งเราก็ขอต้นไทรไว้ต้นหนึ่ง ไม่ให้ตัดต้นไทร และย้ายเข้ามาปลูกไว้ในวัง"

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงบรรยายว่า นอกจากนี้ยังมีคนเล่าเกี่ยวกับเรื่องผีว่า ที่พระตำหนักใหญ่ ซึ่งเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพันวัสสาฯ ชอบมีไฟเปิดได้เอง คนงานก็พูดกันจนรู้สึกกลัว ไม่มีใครกล้าไปที่พระตำหนักนั้น ซึ่งเราได้พิจารณาดูแล้วว่า สมเด็จพระพันวัสสาฯ เป็นคนชอบทำมาค้าขาย เก็บเงินเก็บทองเก่ง ไม่น่าจะเปิดไฟไว้ให้สิ้นเปลืองเงินไว้ทำไม (ทรงพระสรวล) น่าจะเป็นคนงานที่เปิดไฟไว้แล้วลืมปิดมากกว่า

"ทุกวันนี้ ตื่นเช้ามา เราก็จะเดิน บางทีก็วิ่ง เพื่อออกกำลังกายในทุกๆ เช้า ซึ่งเป็นบรรยากาศที่มีความสุขมากๆ"

สำหรับนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ในครั้งนี้ เป็นภาพที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน เช่น ภาพในพระตำหนักใหม่ชื่อ "สิงสาราสัตว์เฝ้าบันได" ของที่ระลึกที่ทรงรักและผูกพันเก็บรักษาเป็นอย่างดีที่พระตำหนักที่ประทับ ภาพความร่มรื่นของพรรณไม้ ความสวยงามของดอกบัวต่างๆ ดอกไม้นานาพันธุ์ที่สวยงามและหายาก รวมถึงภาพความน่ารักแสนซนของเหล่าสุนัขทรงเลี้ยง เช่น แป๊ะฮวยอิ๊ว ที่กำลังดื่มน้ำรากบัว ภาพแมวที่พากันออกมารับเสด็จและยั่วเย้าสุนัขให้ไล่กวด จนต้องหนีขึ้นต้นไม้ เป็นต้น และภายในนิทรรศการ ยังจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ชุดพิเศษ พระจริยาวัตรของพระราชวงศ์ในวังสระปทุม เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่าที่คนไทยควรได้ชม

รูปภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงบรรยายเสร็จ ได้เสด็จพระราชดำเนินตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ชุด "ในร่มเงาวังสระปทุม" ก่อนเสด็จทอดพระเนตรนิทรรศการ นอกจากนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงจำหน่ายสมุดบันทึก "ในร่มเงาวังสระปทุม" ด้วยพระองค์เอง โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เข้าคิวซื้อกันอย่างคึกคัก รวมทั้งแขกผู้ใหญ่ที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ อาทิ นายอำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี นายแก้วขวัญ วัชโรทัย ท่านผู้หญิงสุมาลี จาติกวณิช คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา ฯลฯ จนกระทั่งเวลา 18.30 น. จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับวังสระปทุม โดยมีประชาชนเฝ้าฯ ส่งเสด็จบริเวณห้างสยามดิสคัฟเวอรี่เป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งแซ่ซ้อง "ทรงพระเจริญ" ตลอดเส้นทางเสด็จฯ</span>
churace
 

โพสต์โดย churace » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 2:29 pm

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ในโอกาสนี้ มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้คัดเลือกภาพถ่ายฝีพระหัตถ์จากภาพจำนวนกว่าพันภาพมาจัดพิมพ์เป็นสมุดบันทึก "ในร่มเงาวังสระปทุม" ภายในประกอบไปด้วยภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ชุดวังสระปทุมกว่า 150 ภาพ พร้อมพระราชนิพนธ์คำบรรยายภาพเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและบรรยากาศในวังสระปทุม ความร่มรื่นของพรรณไม้และความน่ารักแสนซนของสุนัขทรงเลี้ยง แมว และสัตว์ต่างๆที่อาศัยอยู่ร่วมกันในวังสระปทุมอย่างสงบสุข ทั้งนี้ สมุดบันทึกฯพิมพ์ด้วยกระดาษอาร์ตอย่างดี สี่สีสวยงาม 136 หน้า ปกแข็ง วางจำหน่ายที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป ศูนย์หนังสือจุฬาฯ ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และที่กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งแต่กลาง พ.ย.นี้ เป็นต้นไป ราคาเล่มละ 255 บาท รายได้จากการจำหน่ายสมทบทุนก่อตั้งพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าในวังสระปทุม

รูปภาพ

หากขอความร่วมมือจากผู้ผลิตให้ผลิตเสื้อให้กรม จะเท่ากับเป็นการเพิ่มภาระ และเป็นต้นทุนให้ผู้ผลิต เนื่องจากขณะนี้ผู้ผลิตมีผ้าสีเหลืองและสีชมพูเป็นส่วนใหญ่ หากจะให้ผลิตผ้าสีอื่นๆ อีกจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น อีกทั้งเห็นว่าการแสดงความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้น ประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลือง และสีชมพูก็น่าจะเป็นระเบียบเรียบร้อยและเพียงพอแล้ว </span>
churace
 

โพสต์โดย churace » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 3:13 pm

รูปภาพ
churace
 

โพสต์โดย pensij » เสาร์ ก.ย. 06, 2008 10:13 pm

พระเทพ ทรงพระอักษรได้น่ารัก เป็นภาษาที่เรียบง่ายจริงๆค่ะ ขอบคุณน่ะค่ะ ที่นำมาโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
pensij
แม่ไข่ดาว พ่อไข่เจียว
 
โพสต์: 546
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ พ.ค. 19, 2008 10:11 pm

โพสต์โดย bee_phung » พุธ ก.ย. 10, 2008 4:18 am

ดีใจค่ะ ที่ได้อ่าน ขอบคุณนะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bee_phung
แม่ไข่ตุ๋น พ่อไข่ต้ม
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 22, 2008 5:02 am


ย้อนกลับไปยัง Web Moderator

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน
cron