กิมจิ

[พี่มิ้นท์]

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>กิมจิ โดย... พี่มิ้นท์</span></span>

ดููละครเรื่อง Full House เห็นนางเอก Song Hye-Kyo ทำข้าวยำผักดองให้พระเอก Jeong Ji-Hun หรือน้อง Rain กิน เลยนึกอยากกินกิมจิกับข้าวสวยร้อนๆบ้าง ไปค่ะเราไปเที่ยว Seoul Korea กัน ไปทำผักดองให้น้องเรนกินดีกว่า

[พี่มิ้นท์]

เครื่องปรุง

◊ ผักกาดขาว ๑ หัวเล็ก
◊ แครอท ๑ หัว
◊ ต้นหอมใหญ่ ๑ ต้นเล็กๆ
◊ น้ำปลา ๓ ช้อนโต๊ะ
◊ เกลือ ๑ ช้อนโต๊ะ
◊ น้ำส้ม ๑ ช้อนชา
◊ พริกชี้ฟ้าสับละเอียด ๓ เม็ด (มิ้นท์ชอบเผ็ดเพิ่มพริกขี้หนููแดงสับอีก ๒ เม็ดค่ะ)
◊ ผงพริกแดง ๒ ช้อนโต๊ะ (ถ้าชอบสีแดงมากก็เพิ่มตามใจชอบค่ะ)

วิธีทำ นำผักไปล้างน้ำให้สะอาดแล้วผึ่งให้แห้ง ทิ้งไว้จนเฉานิดหน่อย

[พี่มิ้นท์]

นำผักใส่ชามใบใหญ่ใส่เกลือลงไปก่อนแล้วนวดขยำให้ผักนิ่ม

[พี่มิ้นท์]

จากนั้นเทเครื่องปรุงที่เตรียมไว้ลงไป

[พี่มิ้นท์]

แล้วขยำให้หนำใจ อย่าถึงกับเละเทะนะคะ แค่เฉาๆมือก็พอค่ะ ชิมรสปรุงตามใจชอบ (เค็มเผ็ด)

[พี่มิ้นท์]

ชิมรสถููกใจแล้วนำใส่ขวดที่ล้างผ่านการฆ่าเชื้อแล้วมีฝาปิดสนิท วางไว้สักครึ่งวันในอุณหภููมิปรกติในครัวที่บ้าน ก่อนนอนนำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้หนึ่งคืน

[พี่มิ้นท์]

รุ่งเช้าก็มีผักดองกิมจิรสแซ่บสููตรคนไกลบ้านกินแล้วค่ะ ผักกรอบๆ เผ็ดสะใจ ว่าแต่สููตรนี้น้องเรนจะกินได้มั้ยเนี่ยอดเป็นนางเอกเลย

[หนูนก]

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>กิมจิ โดย... หนูนก</span></span>

นกเป็นคนชอบทานกิมจิมากค่ะ ไปทานข้าวที่ร้านเกาหลีเมื่อไหร่ก็ต้องกินแบบเติมแล้วเติมอีกทุกที ชอบมากจนไปซื้อมาเก็บใส่ตู้เย็นไว้เลย แต่กิมจิที่ซื้อมากินมันก็ไม่ค่อยอร่อยเหมือนกินที่ร้าน หลายเดือนก่อนแม่ของเพื่อนคนเกาหลีมาเยี่ยมลูกชายที่นี่ นกจึงได้กินกิมจิฝีมือแม่เค้า อร่อยมากค่ะ เลยถือโอกาสไปเรียนด้วยเสียเลย ไปเรียนมาสองสูตรนะคะ กิมจิสีแดงๆที่เราเคยทานกันบ่อยๆกับ Water Kimchi แม่บอกว่าเป็นกึ่งๆ appetizer หรือจะทานเป็นของหวานก็ได้ คนเกาหลีมักจะนิยมทานในหน้าร้อน แต่วันนี้ขอเอากิมจิแบบดั้งเดิมก่อนละกันนะคะ ไว้วันหลังจะเอา Water Kimchi มาฝากค่ะ

เครื่องปรุง

◊ ผักกาดขาว
◊ เกลือเม็ดเล็กๆที่ใช้ทำอาหาร (ไม่ใช่เกลือป่นนะคะ)
◊ หอมหัวใหญ่
◊ กระเทียม
◊ ต้นหอม
◊ พริกป่นเกาหลี (น่าจะมีขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตค่ะ เป็นพริกสำหรับทำกิมจิโดยเฉพาะ)
◊ น้ำตาล
◊ น้ำเปล่า

หน้าตาพริกป่นเกาหลีนะคะ มีหลายยี่ห้อ เลือกเอาตามสะดวกนะคะ แต่ห้ามใช้พริกป่นไทยนะคะ เพราะทำออกมาแล้วสีมันจะซีดไม่สวยน่ะค่ะ (แบบว่าเพื่อนเคยเอามาทำน่ะ สีมันซีดๆ ไม่น่าทานค่ะ)

[หนูนก]

ก่อนอื่นก็ผสมพริกเกาหลีกับน้ำใส่ไว้ในถ้วยนะคะ ปริมาณมากน้อยตามต้องการค่ะ การผสมพริกกับน้ำจะทำให้เหมือนกับว่าพริกมันบานๆออกน่ะค่ะ เริ่มแช่พริกในน้ำตั้งแต่แรกเลยนะคะ พริกจะได้บานสวย แล้วก็ทำให้รสชาติดีค่ะ ถ้าพริกที่ผสมน้ำแล้วเหลือก็เก็บไว้ได้นะคะ เพราะฉะนั้นโดยความเห็นส่วนตัวเนี่ย ละลายพริกไว้เยอะๆดีกว่าค่ะ เพราะเก็บได้ แต่ถ้าละลายพริกน้อยเกินไป ทำใหม่ทีหลังพริกมันไม่บานแตกตัว มันจะขมๆหน่อยค่ะ

[หนูนก]

สับกระเทียมให้ละเอียดพอประมาณ หั่นหอมหัวใหญ่เป็นสี่เหลี่ยม แล้วก็ซอยต้นหอมเตรียมไว้ค่ะ

[หนูนก]

คราวนี้ถึงตาจัดการกับผักกาดขาวค่ะ ล้างผัดกาดขาวแล้วหั่นให้เป็นขนาดพอดีคำ ระวังอย่าให้มันเล็กมากนะคะ โดยเฉพาะส่วนปลายของผักกาด เพราะว่าหากทำไปแล้วหลายวันมันจะยุบจนไม่ค่อยน่าทานน่ะ นอกจากนั้นจะทำให้น้ำออกมาเยอะมากด้วยค่ะ พอหั่นผักแล้วก็ค่อยๆเรียงผักกาดขาวเป็นชั้นๆ (ในกาละมังใบใหญ่ๆ) แต่ละชั้นให้โรยเกลือลงไปพอประมาณ เมื่อโรยเกลือเสร็จก็เรียงผักชั้นต่อไปอีก ทำไปแบบนี้จนผักหมด ทิ้งไว้ประมาณ ๒-๓ ชั่วโมงค่ะ การสังเกตว่าผักใช้ได้หรือยัง ให้ใช้มือลองกดดูที่ก้านผักกาดค่ะ ถ้าใช้ได้แล้วก้านผักกาดจะนุ่มๆหยุ่นมือ ไม่แข็งเหมือนตอนแรกๆ

[หนูนก]

เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ ๓ ชั่วโมงได้ ผักยุบเหลือนิดเดียวค่ะ จากนั้นก็นำผักกาดขาวไปล้างด้วยน้ำสะอาด แค่ครั้งเดียวนะคะ ถ้าล้างนานไป เกลือจะออกไปหมด มันจะจืดค่ะ

[หนูนก]

ขั้นตอนต่อไปก็ผสมผักกาดขาว กระเทียม หอมหัวใหญ่ ต้นหอม เข้าด้วยกัน เติมพริกที่เตรียมไว้ น้ำตาล แล้วเกลือนิดหน่อย

[หนูนก]

จากนั้นก็คนทุกอย่างเข้าด้วยกัน ขั้นตอนนี้ชิมรสดูให้พอใจนะคะ คือตอนที่ไปเรียนวิธีทำกับแม่เพื่อนมา เค้าไม่ตวงอะไรซักอย่าง จะถามมากแม่ก็แบบว่าพูดอังกฤษไม่เก่งน่ะค่ะ พอทำเองก็เลยต้องกะๆเอา รสชาติก็เอาแบบที่เราชอบน่ะ แต่ระวังอย่าใส่เกลือมากนะคะ เค็มแล้วแก้ยากค่ะ ส่วนน้ำตาลใส่นิดหน่อย พอให้เป็นประมาณตัดรสค่ะ

[หนูนก]

พอเสร็จแล้วเก็บใส่ขวดโหล ตอนใส่อัดให้มันแน่นๆเลยค่ะ ส่วนถามว่าเมื่อไหร่ถึงจะกินได้ แม่เพื่อนบอกว่าเริ่มทานได้เลยตั้งแต่ทำเสร็จใหม่ๆ รสชาติก็จะอร่อยไปอีกแบบค่ะ แต่ถ้าปรกติเนี่ยเมื่อทำเสร็จแล้วเค้าจะเก็บไว้ข้างนอกประมาณหนึ่งวัน แล้วค่อยเอาใส่ตู้เย็นไว้นะคะ