ยาดับกลิ่นตัวแบบไหนปลอดภัยกว่า

[แตง]

วันนี้มีเกร็ดน่ารู้มาบอกอีกค่ะ ยังไงก็ขอโทษผู้อ่านทุกท่านที่มีแต่เรื่องอื่นๆไม่เกี่ยวกับการทำอาหาร ที่จริงอยากจะส่งเรื่องทำอาหารมาบ้างแต่ติดตรงที่ยังไม่มีรูปการสาธิต ถ้ามีเมื่อไหร่จะสาธิตการทำอาหารมาให้ชมค่ะ รวมทั้งส่งการบ้านด้วย นี่เอาสูตรไปทำหลายอย่างแล้วค่ะ ตอนนี้ขอทำประโยชน์โดยการบอกเกร็ดน่ารู้ไปก่อนนะคะ

ยาดับกลิ่นตัว ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มันจะมีแบบ Deodorant และ แบบ Anti-Persprant ซึ่งเจ้ายาดับกลิ่นตัวแบบหลังนี่จะช่วยไม่ให้มีเหงื่อเปียกชุ่มให้วงแขนด้วย หลายคนจึงนิยมใช้กัน จากผลการวิจัยพบว่ามันอาจเป็นบ่อเกิดมะเร็งเต้านมหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ได้ เนื่องจากมันทำงานโดยปิดรูขุมขนใต้รักแร้ไม่ให้เหงื่อออกมา การที่มีสิ่งอุดตันตลอดเวลา ทำให้ส่งผลกระทบไปถึงเต้านมได้เพราะเป็นส่วนที่อยู่ติดกัน เหมือนกับที่เราปิดน้ำที่หนึ่งมันก็ย่อมไปโป่งอีกที่หนึ่ง ยังไงก็ลองสำรวจดูที่สลากข้างขวดดูว่ามันเป็นประเภทไหน ถ้าเป็นแบบ Anti-Persprant ก็ควรงดใช้ เปลี่ยนมาใช้แบบ Deodorant จะได้ลดความเสี่ยงจากมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเต้านม นี่ที่ถ้าอยู่เมืองไทย เราก็อาจใช้ใบพลูกินหมาก ขยี้แล้วทาใต้รักแร้แทนได้เหมือนกันนะ

[ป้ามุกดา]

ป้ามาขอบคุณสำหรับเกร็ดความรู้ค่ะ ป้าว่าดีนะคะ ใครเห็นอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตก็เอามาแบ่งปันกัน ไม่มีใครรอบรู้ไปหมด ก็ต้องเรียนรู้จากกัน ป้าขอบคุณมากๆเลยค่ะที่อุตส่าห์เอามาแบ่งปัน คนบ้านเราสมัยก่อนใช้สารส้ม ป้าเองก็ไม่ทราบว่าจะให้ผลดี ผลเสียอย่างไรหรอกค่ะ เคยมีเพื่อนบอกว่าทำให้ใต้รักแร้เป็นสีคล้ำ อิ อิ