ยำไก่ตะไคร้ ยำไก่ใส่แอ๊ปเปิ้ล ยำไก่ใส่หัวปลี ยำไก่อบ(D)

[{@-Enya-@}]

วิธีทำขั้นตอนที่ ๓ จากนั้นพักน้ำพริกเผาเอาไว้ก่อนค่ะ หันมาดูตรงเครื่องปรุงรสกันบ้างนะคะ มี ๓ อย่าง คือ น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ และก็น้ำปลา น้ำมะขามเปียกนี่ก็ได้จากการเอามะขามเปียกมาแช่น้ำอุ่นไว้พอนิ่ม แล้วก็เอามือที่สะอาดลงไปขยำมะขามเปียกให้เข้ากับน้ำ จากนั้นกรองเอาไว้แต่น้ำ ส่วนกากก็ทิ้งไปนะคะ วันนี้พิมใช้มะขามเปียก ๒ ปั้นค่ะ แต่บางคนอาจจะต้องใช้มากกว่านี้ หรืออาจจะต้องใช้น้ำมะนาวช่วย หากมะขามเปียกไม่เปรี้ยวพอน่ะค่ะ

[{@-Enya-@}]

นำมะขามเปียกไปแช่น้ำจนนิ่ม แล้วก็คั้นออกมาเป็นน้ำมะขามเปียกล้วนๆ จากนั้นนำไปผสมกับน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาอย่างดีค่ะ ชิมรสให้ออกเค็มนิด ไม่ต้องหวาน และไม่ต้องเปรี้ยวนัก เพราะเดี๋ยวเราจะต้องใส่มะม่วงเปรี้ยวในยำอีกน่ะค่ะ ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้

[{@-Enya-@}]

จากนั้นตักน้ำพริกเผาที่เราตำไว้ในครก ใส่ลงไปในส่วนผสมน้ำมะขามเปียก คนให้เข้ากันดีค่ะแล้วก็ชิม รสชาติเนี่ยตามชอบเลยนะคะ ของบ้านพิมจะเน้นเผ็ด เปรี้ยว เค็มนิดๆ ไม่หวานนะคะ

[{@-Enya-@}]

ที่สำคัญส่วนผสมอันนี้จะต้องข้นนะคะ ก็ให้ข้นประมาณในรูปจะกำลังดีค่ะ หากเหลวไปกว่านี้แล้ว รสชาติยำจะไม่เข้มข้นค่ะ

[{@-Enya-@}]

วิธีทำขั้นตอนที่ ๔ จากนั้นก็พักน้ำพริกเผาไว้ก่อน หันมาดูนางเอกกันนั่นคือเนื้อสัตว์ที่พิมจะเอามาใช้ยำ วันนี้พิมเลือกใช้เนื้ออกไก่ค่ะ ใครไม่ชอบทานไก่จะใช้เนื้อหมู เนื้อกบแทนก็ได้นะคะ เนื้อไก่ที่เห็นในภาพน้ำหนักราว ๑ กิโลกรัมค่ะ

[{@-Enya-@}]

วิธีการทำเนื้อไก่ให้สุกก็มีหลายวิธีด้วยกัน จริงๆแล้วใช้วิธีย่างจะหอมกว่า แต่ว่าถ้าย่างเนื้อไก่จะแข็งกว่า ซึ่งที่บ้านไม่ค่อยชอบน่ะค่ะ ก็เลยเปลี่ยนมาต้มหรือไม่ก็นึ่งแทน ซึ่งในวันนี้พิมเลือกใช้วิธีการต้มเอาค่ะ เพราะว่าสะดวกดี ก็นำเนื้อไก่ไปล้างผ่านน้ำให้สะอาด จากนั้นก็นำไปต้มด้วยไฟแรงแต่ไม่ต้องแรงจัดประมาณ ๑๕ นาที เนื้อไก่ก็สุกแล้วน่ะค่ะ ต้มแค่พอสุกนะคะ อย่าต้มนานเกินไปไม่งั้นเนื้อไก่จะยุ่ยมาก ตอนเอามายำจะเละๆ ไม่ค่อยอร่อยน่ะค่ะ พอเนื้อไก่สุกแล้วก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ

[{@-Enya-@}]

แล้วพอเนื้อไก่เย็น เราก็นำเนื้อไก่มาฉีกเป็นเส้นๆอย่าฉีกชิ้นใหญ่นักนะคะ เพราะว่าเดี๋ยวจะไม่เข้ากับเครื่องยำน่ะค่ะ และก็อย่าฉีกชิ้นเล็กไป ไม่งั้นเวลายำแล้วจะไม่รู้อันไหนไก่ อันไหนหัวปลีน่ะค่ะ ก็เอาชิ้นประมาณในรูปนี้นะคะ บางคนอาจจะอยากถามว่าหั่นๆเอาได้ไหม ไม่ต้องใช้ฉีก คือหั่นๆ สับๆ น่าจะเร็วกว่า ซึ่งพิมก็ขอตอบว่าได้ค่ะ แต่ว่าฉีกได้อารมณ์กว่าเยอะเลยค่ะ และเนื้อไก่ก็เป็นริ้วๆ เส้นๆ เวลาทานจะรู้สึกว่าอร่อยกว่าใช้วิธีการสับแน่นอนน่ะค่ะ มีเทคนิคนิดหน่อยคือเวลาฉีกให้ใช้ปลายส้อมช่วยดึงเนื้อไก่ จะสะดวกและง่ายมากๆเลยค่ะ เมื่อฉีกเนื้อไก่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็พักเอาไว้ก่อนนะคะ

[{@-Enya-@}]

วิธีทำขั้นตอนที่ ๕ จากนั้นก็หันมาดูเครื่องยำที่เหลือกันค่ะ ได้แก่มะม่วง ใบสะระแหน่ มะม่วงเนี่ยต้องเลือกใช้มะม่วงเปรี้ยวดิบเท่านั้นนะคะ ถึงจะมีรสอร่อย อย่างมะม่วงสามฤดู หรือน้ำดอกไม้ แต่หากหามะม่วงเปรี้ยวมากไม่ได้ ก็ให้ใช้น้ำมะนาวช่วยเพิ่มความเปรี้ยวก็ได้น่ะค่ะ วันนี้พิมใช้มะม่วงทั้งหมด ๔ ลูกย่อมๆต่อเนื้อไก่ ๑ กิโลกรัม นะคะ

[{@-Enya-@}]

มะม่วงปอกเปลือก ล้างผ่านน้ำให้สะอาด แล้วก็สับเป็นเส้นๆเอาไว้นะคะ

[{@-Enya-@}]

ส่วนใบสะระแหน่ เลือกใบเหลืองเน่าทิ้งไป ล้างผ่านน้ำให้สะอาด แล้วทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำ และเด็ดเป็นใบๆจ้า

[{@-Enya-@}]

วิธีทำขั้นตอนที่ ๖ ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญที่สุดแล้วค่ะ เราจะมาลงมือยำกันค่ะ หากะละมังใบย่อมๆหรือภาชนะอะไรก็ได้นะคะ แต่ให้ใหญ่นิดหน่อยมา ๑ ใบ เอาหัวปลีที่เราฉีกไว้เป็นชิ้นๆแล้วใส่ลงไป ก่อนใส่บีบน้ำออกจากหัวปลีด้วยนะคะ

[{@-Enya-@}]

ตามด้วยเนื้อไก่ที่เราฉีกไว้แล้วค่ะ

[{@-Enya-@}]

น้ำพริกเผา อันนี้ตอนแรกพิมใส่ไปประมาณ ๒ ทัพพีค่ะ แล้วจากนั้นชิมดูรสยังไม่จัดเท่าไหร่ ก็ใส่ลงไปเพิ่มอีก ประมาณ ๑ ทัพพีค่ะ

[{@-Enya-@}]

แล้วก็มะม่วงค่ะ

[{@-Enya-@}]

เคล้าให้เข้ากันแล้วก็ชิมรสดูตามชอบ ของพิมเน้นรสจัดค่ะ เผ็ด เปรี้ยว เค็มนิดๆ ไม่หวาน นี่แหละค่ะรสโปรดพิมเลย ใครขาดอะไรตรงไหนก็เติมได้ตามชอบเลยนะคะ