อ่านเจอจากเวบบอร์ดของที่ทำงานน่ะค่ะ &nsbp; &nsbp;เลยอยากให้ทุกคนได้อ่านกัน
***ในหลวงของปวงเรา** (ระวังน้ำตาซึมนะ)
อยากให้ทุกคนได้อ่าน
**ฉันอายตัวเองว่า
ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย
ยายซุป สามร้อยยอด เป็นหญิงชาวบ้านวัย 70 แห่งบ้านคุ้งโตนด
อำเภอกุยบุรี จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์
ยากจนมาตังแต่ยังสาวจวบจนวันนี้ หากแต่เธอกลับยืนยันว่า
เธอมีอดีตที่มีความหมายต่อชีวิตของแก อดีตที่หมายถึงชีวิตใหม่
ไม่ว่าแกจะยังจนต้องขอเงินลูก ๆ
9 คนใช้ดังเช่นทุกวันนี้หรือจะมั่งมีศรีสุข ถูกหวยรวยเบอร์
อย่างไรก็ตาม แกไม่เคยลืมเหตุการณ์ครั้งนั้น
เหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานานกว่า 40 ปี
การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฏรบ้านคุ้งโตนด อำเภอกุยบุรี
ไม่เพียงทำให้หมู่บ้านที่ยากจน ล้าหลัง ไม่มีแม้
ถนนที่จะติดต่อกับโลกภายนอก ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น
หากแต่การเสด็จพระราชดำเนินในครานั้นได้ทำให้หญิงคนหนึ่งมีชีวิตยืนยาวต่อมาจนถึงวันนี้
สมัยยังสาวยายเคยไปรับเสด็จในหลวงใช่ไหม?
ยาย-ใช่ ตอนนั้นไปรับเสด็จที่ตีนถ้ำไทรในหมู่บ้านเรานี่แหละ
ท่านเสด็จฯ มาทางเหนือ ไอ้เราป่วยเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องมาครึ่งเดือนแล้ว
แต่ไม่รู้หรอกนะตอนนั้นว่าเป็นไส้ติ่ง ปวดท้องนอนซม
คนในบ้านบอกในหลวงจะมา เราก็อยากเห็น อยากไปรับเสด็จ
แต่ปวดท้องจนเดินไม่ไหว
เดินไม่ไหว แล้วไปยังไง?
ยาย-ก็ให้คนหามไป ใส่เกวียนไปเลย
ทำไมถึงเลือกไปเฝ้าในหลวง ไม่ไปหาหมอ?
ยาย-ไม่รู้สิ คืออยากเห็นตัวจริง ๆ ใกล้ ๆ นะ คิดในใจว่ายอมตายได้
แต่ขอไปรับเสด็จก่อน แลกตัว แลกชีวิตกันเลย พูดง่าย ๆ
ว่าวัดดวงเอาเลย อีกอย่างตอนนั้นถ้าเราไปหาหมอก็ลำบาก เพราะน้ำแห้ง
เรือเครื่องก็ไม่มี ถ้าไปก็คงไปไม่ถึง มันคงจะตายก่อน
แล้วตอนนั้นได้ถวายอะไรท่านบ้างไหม?
ยาย-ยกมือพนมยังจะไม่ไหวเลย จะให้ถวายอะไรอีก (หัวเราะเสียงดัง)
แล้วได้เห็นท่านไหม?
ยาย-ก็ได้เห็นท่านอยู่ แต่ก็เห็นห่าง ๆ
แล้วก็เห็นไม่นานเพราะว่าพระองค์ท่านต้องเสด็จฯ
ไปที่ตีนเขาอีกลูกคนละฟาก
ทรงไปดูเรื่องที่จะระเบิดเขาทำทางเข้าออกหมู่บ้าน
ไส้ติ่งเรากำลังจะแตก แล้วรอดมาได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้น?
ยาย-ตอนนั้นไส้ติ่งกำลังจะแตก เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัว
พอดีว่าพระราชินีท่านทรงเยี่ยมเยียนราษฏร แล้ว
ทอดพระเนตรเห็นเรานั่งหน้าซีด พิงเพื่อน คือได้ตอนนั้นมันไม่ไหวจริง ๆ
ท่านทอดพระเนตรเห็น ก็คงสังเกตได้ว่าอาการเราไม่ดี พระองค์ก็ถามว่า
เป็นอะไร? ท่านบอกให้พูดธรรมดาก็ได้ เราบอกว่าเจ็บ ท้อง
พระองค์ท่านตรัสถามต่อว่า เจ็บมากี่วันแล้ว? เราก็บอกว่า
เจ็บมาครึ่งเดือนเห็นจะได้ ท่านก็เลยบอกให้หมอที่มาด้วยตรวจดู
แล้วหมอว่ายังไง?
ยาย-หมอบอกว่าไส้ติ่งกำลังจะแตก
พอหมอบอกอยางนั้นพระองค์ท่านก็ทรงติดต่อไปที่ในหลวงซึ่งทรงอยู่ที่ตีนเขาอีกลูก
รู้ได้ยังไงว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงติดต่อไปที่ในหลวง?
ยาย-รู้สิ เพราะเห็นในหลวง พระองค์ท่านทรงวิ่งจากตีนเขาลูกโน้นมาเลย
ห่างกันถึง 1 กิโล (แค่นี้ก็ตื้นตันแทนคุณยายแล้ว)
รู้สึกอย่างไรบ้างในตอนนั้น?
ยาย-ดีใจแล้วก็ปลื้มใจแบบมาก ๆ ไอ้ตอนแรกคิดว่ากำลังจะตายนี่
คิดว่าตัวเองรอดแน่ มันมีกำลังใจ
คิดว่าขนาดพระเจ้าแผ่นดินยังเอาใจใส่เราขนาดนี้ เราจะตายไม่ได้
พอในหลวงเสด็จมาถึง ทรงตรัสว่าอย่างไรหรือไม่?
ยาย-ท่านให้เอา ฮ. มารับ ท่านตรัสว่า เดี๋ยวเราจะกลับทางเรือเอง
ให้เอาคนไข้ไปส่งก่อนพอพระองค์ท่านตรัส หมอสองคนก็หิ้วปีกเราไป
ในหลวงท่านทรงเมตตาเราไปจนถึงเครื่อง พอเราขึ้นไป ก่อนที่ประตู ฮ.
จะปิด เราก็มองลงมาเห็นในหลวง ท่านทรงโบกพระหัตถ์
เราซาบซึ้งมากยิ่งบอกตัวของเราเลยว่าเราจะตายไม่ได้
ถ้าไม่มีในหลวงในวันนั้น ก็ต้องตายแน่?
ยาย-แน่นอน ไม่ต้องอะไรหรอก หมอบอกว่า มาช้ากว่านี้แค่ 2-3 นาที
ก็ไม่รอดแล้ว แล้ววันนั้นอย่างที่บอกว่าเรือเครื่องก็ไม่มี น้ำก็แห้ง
ไม่รู้ใช้เวลาครึ่งวันจะเดินทางไปถึงโรงพยาบาลหรือเปล่า
ถ้าในหลวงไม่เสด็จมาที่นี่ วันนั้นก็ตายแน่ ตายทั้ง ๆ
ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองเป็นอะไรตาย
เหมือนกับได้ชีวิตใหม่?
ยาย-ใช่ ชีวิตทุกวันนี้ถึงฉันแก่แล้ว
แต่เมื่อนึกถึงวันนั้นทีไรรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ทุกที
ตอนนั่งดูโทรทัศน์ เวลาเห็นท่าน เราก็จะพนมมือไหว้ตลอด
รู้สึกว่าท่านได้มอบชีวิตใหม่ให้กับเรา
ตอนนั้นอยู่บน ฮ. เป็นอย่างไรบ้าง?
ยาย-จำไม่ค่อยได้
รู้แต่ว่าพอบินขึ้นไปพักใหญ่หมอก็ถามว่าเป็นยังไงบ้าง
เราพูดไม่ค่อยไหว แต่ก็บอกไปว่าปวดท้อง บน ฮ. นอกจากเรา ก็มีหมออีก 2
คน แล้วก็คนขับอีก 2 คน
จำได้แค่นี้ล่ะ
ฮ. พาไปที่โรงพยาบาลไหน?
ยาย-โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ เพชรบุรี
แล้วพักอยู่กี่วัน?
ยาย-ปกติคนเป็นไส้ติ่งทั่วไปเขาพักกัน 3-4 วันก็ออกได้แล้ว
แต่เราเป็นหนักต้องพักถึง 24 วัน ถ้าในหลวงไม่ช่วยก็ตายแน่
แล้วถ้าเราตาย ลูกเต้าก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง ในหลวงท่านทรงเมตตา
ทรงดูแลเราอย่างดี ห้องที่เราพักอยู่นี่ดีมาก เป็นห้องพิเศษเลย พูดตรง
ๆ ว่าดีกว่าบ้านที่ฉันอยู่อีก หมอก็นิสัยดี
พูดจากับเราเพราะแล้วก็ใจดี
**ในหลวงท่านทรงห่วงใยเรามากมีคนมาเยี่ยม ถามอาการ
ถามสารทุกข์สุขดิบทุกวัน
คนใกล้ชิดพระองค์ ท่านก็ถามเรานะว่า จะฝากอะไรถึงท่านไหม เราบอกให้
พระองค์ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ พูดได้แค่นั้น
มันตื้นตันจนนึกไม่ออก**
หลังจากวันนั้นแล้วเป็นอย่างไร?
ยาย-ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่านอีกเลย ถ้าเรามีโอกาส
จะขอเข้าไปกราบแทบพระบาทเลย สิ่งที่พระองค์ท่านทรงช่วยเหลือเราไว้
เป็นความซาบซึ้งที่สุดในชีวิตแล้ว
**คิดูสิโลกนี้จะหากษัตริย์อย่างท่านได้ที่ไหน
เราเป็นแค่ชาวบ้านจน ๆ แต่ท่านห่วงเราเหมือนเราเป็นลูก พระองค์ท่าน
ทรงห่วงเราเหมือนที่เราห่วงลูก
ท่านทรงเสียสละแม้กระทั่งของส่วนพระองค์
ทรงยอมลำบากกลับทางเรือเพื่อคนอย่างเรา พูดตรง ๆ
ว่าสิ่งที่พระองค์ทรงทำให้ฉันตายแล้วเกิดใหม่อีกสิบชาติก็ทดแทนไม่หมด**
กลับมาบ้านแล้ว เป็นอย่างไร?
ยาย-ตอนที่ออกจากโรงพยาบาลใหม่ ๆ พระองค์ท่านก็ส่งเงินมาให้อยู่ถึง 1
ปี ครั้งละ 3-5 พันบาท ส่งมาหลายครั้งอยู่
เรารู้เพระว่าใส่ซองสีขาวประทับตราสำนักพระราชวัง
จากเหตุการณ์นั้นทำให้เรารักในหลวงของเรามาก
แล้วทุกวันนี้ก็ยังน้อยใจตัวเองอยู่ว่า เวลาที่ท่านป่วย
เราก็ไม่มีเงินไปเฝ้า ไปแสดงความจงรักภักดีกับท่าน
ได้แต่ร้องไห้อยู่กับบ้าน นั่งร้องไห้ทุกวัน
ดูข่าวทุกวันไม่เคยเว้นเลย
**ฉันอายตัวเองว่า ในขณะที่ท่านให้ชีวิตใหม่กับเรา
แต่เราช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย**
การเสียสละของในหลวงคราวนั้น ได้เอามาปฏิบัติตามหรือไม่?
ยาย-มีส่วนมากเลย เวลาคนในหมู่บ้านเขาป่วยเป็นอะไร
ฉันก็ไปเยี่ยมเขาทั่วไปไหนไปกัน
มีใครเจ็บในหมู่บ้านนี่ฉันจะไปเยี่ยมหมด บางทีถึงไม่ใช่หมอ
ไม่ใช่ญาติเขา แต่เราก็ไป
ไปนั่งพูดคุยให้กำลังใจ บางทีก็ไปบีบให้นวดให้
นี่คือสิ่งที่ในหลวงให้เรา และเราให้คนอื่นต่อ
**เมืองไทยเราโชคดีที่มีในหลวง โชคดีมาก ๆ
ไม่มีกษัตริย์ที่ไหนในโลกอีกแล้วที่จะเป็นห่วงชาวบ้านอย่างฉันเท่ากับท่าน
คนอย่างเราเปรียบไปก็เหมือนมดปลวก แต่ท่านก็ยังใส่ใจ ท่านใส่ใจจริง ๆ
เหมือนกับว่าคนไทย คือ ลูกของท่านทั้งแผ่นดิน**