สอนน้องย่อรูปให้ได้ขนาดที่ต้องการ(D)

[หมูแดง]

เมื่อเลือกแล้ว จะเห็นว่าขนาดความกว้าง และความสูงของรูปเปลี่ยนไปเป็นความกว้าง ๑๐๒๔ พิกเซลล์ และมีความสูง ๗๖๘ พิกเซลล์ และนี่คือความละเอียดของรูปค่ะ

[หมูแดง]

เรามีโจทย์คือความกว้าง ดังนั้น ให้คุณคลิกที่ลูกศรในช่อง Width ที่ตอนนี้มีขนาด ๑๐๒๔ พิกเซลล์ ถ้าต้องการขยายรูปให้ใหญ่ขึ้น ให้คลิกที่ลูกศรที่ชี้ขึ้นด้านบน แต่วันนี้เราจะทำการย่อ จึงต้องคลิกที่ลูกศรที่ชี้ลง จะเห็นว่าตัวเลขความกว้างจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ส่วนตัวเลขความสูงก็จะลดลงตามอัตราส่วนด้วยเช่นกัน

คลิกที่ลูกศรชี้ลงให้เหลือความกว้าง ๖๔๐ พิกเซลล์ ตามโจทย์ค่ะ ส่วนความสูงจะเป็นเท่าไหร่ก็ไม่สำคัญค่ะ เท่าไหร่ก็เท่านั้น โดยมากถ้าเป็นรูปที่ถ่ายมาจากกล้องดิจิตอล เมื่อรูปมีความกว้าง ๖๔๐ พิกเซลล์ ความสูงจะเท่ากับ ๔๘๐ พิกเซลล์ค่ะ เว้นเสียแต่ว่ารูปนั้นได้รับการตกแต่ง หรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขขนาดมาก่อนหน้านี้แล้ว

[หมูแดง]

เมื่อได้รูปขนาดที่ต้องการแล้ว เราก็ต้องเซฟรูปไว้ค่ะ ขอแนะนำนะคะว่าให้เลือกคำสั่ง File และ Save As แทนการคลิกไอคอน Save หรือเลือกคำสั่ง File Save เหตุผลเพื่อไม่ให้ไฟล์ต้นฉบับเสียไปค่ะ หากเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้น เราก็ยังมีรูปต้นฉบับเก็บไว้

<span style='color:#0033CC'>การย่อรูป เมื่อเสร็จแล้วควรเซฟเป็นชื่อไฟล์ใหม่ เก็บไว้ในตู้เอกสารอื่น แยกออกจากต้นฉบับเพื่อไม่ให้ปะปนกันค่ะ</span>

ตอนนี้เพื่อนๆก็ย่อรูปกันได้แล้ว หวังว่าคงจะโพสต์รูปได้สวย และคล่องขึ้นนะคะ

[หมูแดง]

การเซฟทำได้ ๒ วิธีค่ะ จะขอแนะนำวิธีแรกก่อนนะคะ เป็นการเซฟไฟล์ในแฟ้มเอกสารใหม่ แต่อยู่ภายในแฟ้มเอกสารเดิม เปรียบง่ายๆเหมือนเป็นแฟ้มเอกสารย่อยน่ะค่ะ

เมื่อทำการคลิก File --> Save As มาแล้ว ให้คลิกที่ไอคอน New Folder แบบในรูปนี้ค่ะ สังเกตว่าไอคอนจะมีลักษณะเป็นเหมือนแฟ้มที่ปิด แต่มีดาวอยู่ข้างบนค่ะ ถ้าเราเอาเม้าส์ไปวางไว้ใกล้ๆโดยไม่คลิก ก็จะมีคำว่า Create New Folder ขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนี้แสดงว่าถูกปุ่มแล้วค่ะ คลิกได้เลย

[หมูแดง]

เมื่อคลิกแล้ว เครื่องจะทำการสร้างแฟ้มเอกสารให้ใหม่ในชื่อว่า New Folder คุณสามารถใช้แฟ้มนี้ได้เลย หรือทำการเปลี่ยนชื่อแฟ้มเอกสาร โดยการพิมพ์ข้อความทับไปเลย วันนี้หมูแดงจะขอตั้งชื่อแฟ้มเอกสารย่อยอันนี้ว่า Resize Pics นะคะ

[หมูแดง]

พิมพ์ชื่อแฟ้มที่ต้องการว่า Resize Pics ได้แล้ว ก็คลิกที่คำว่า Open ได้เลยค่ะ สังเกตว่าชื่อไฟล์จะขึ้นที่ช่อง File name ให้โดยอัตโนมัติ หากต้องการเปลี่ยนชื่อก็สามารถพิมพ์ทับลงไปได้เลยเช่นกันค่ะ

[หมูแดง]

สังเกตนะคะว่าในช่อง Save in จะกลายเป็นชื่อแฟ้มเอกสารอันใหม่แล้ว เมื่อได้เช่นนี้ก็กด Save ได้เลยค่ะ

[หมูแดง]

เพียงเท่านี้ รูปที่ย่อไว้ก็ถูกเซฟลงเป็นชื่อใหม่ ในแฟ้มใหม่ โดยที่รูปต้นฉบับไม่ได้เสียหายแต่อย่างใดค่ะ เมื่อได้เช่นนี้แล้วก็สามารถปิดรูปภาพไปได้เลยค่ะ เพราะเราทำได้ครบทุกขั้นตอนแล้วค่ะ

[หมูแดง]

หากเราย้อนกลับมาที่หน้า My Computer สังเกตว่าที่หน้าชื่อแฟ้มเอกสารเก่าจะมีเครื่องหมายบวกอยู่ด้วย นั่นหมายความว่ายังมีแฟ้มเอกสารย่อยซ่อนอยู่ภายใต้แฟ้มนี้อีกค่ะ

[หมูแดง]

ถ้าคลิกที่เครื่องหมายบวก ๑ ครั้ง หรือดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อแฟ้ม เครื่องจะเปิดแฟ้มย่อยๆขึ้นมาให้ดู จะเห็นว่าภายใต้แฟ้มใหญ่มีแฟ้มเอกสารชื่อ Resize Pics ที่เราเพิ่งสร้างใหม่ซ่อนอยู่

[หมูแดง]

หากคุณดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อแฟ้ม Resize Pics ก็จะเห็นรูปดอกไม้สีม่วงที่เราเพิ่งเซฟอยู่ในนั้นค่ะ

[หมูแดง]

การเซฟไฟล์อีกวิธีหนึ่งคือการคลิกที่ปุ่มลูกศรลงตามในรูปค่ะ คราวนี้เราจะไม่สร้างแฟ้มเอกสารอันใหม่ แต่จะเซฟไว้ที่แฟ้มใดแฟ้มหนึ่งที่เรามีอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เดี๋ยวจะสาธิตการเซฟไฟล์ในแฟ้มชื่อ My Pictures นะคะ

เริ่มจากคลิกที่ปุ่มลูกศรลงแบบนี้ก่อน จะเห็นว่ามีรายการ drivers ของเครื่องมากมายขึ้นมา มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับเครื่องคอมฯของแต่ละคนนะคะ วิธีง่ายๆก็คือให้คุณเลือก driver ที่ต้องการ แล้วก็หาแฟ้มที่ต้องการให้ได้ วันนี้หมูแดงเลือกแฟ้ม My Pictures ค่ะ

[หมูแดง]

เมื่อเราหาแฟ้มที่ต้องการคือ My Pictures พบแล้ว จะเห็นว่าช่อง Save in เปลี่ยนไป หากต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ก็พิมพ์ทับลงไปได้เลยค่ะ เมื่อชื่อแฟ้มถูกต้องแล้ว ชื่อไฟล์ก็ถูกต้องแล้ว กดเซฟได้เลยค่ะ

[หมูแดง]

หากย้อนกลับมาที่ My Computer อีกครั้ง ภายใต้แฟ้มชื่อ My Pictures ก็จะมีไฟล์รูปดอกไม้สีม่วงอยู่ด้วยแบบนี้ค่ะ

[ขุนสุพรรณ]

ขอเข้ามาแจมหน่อยครับ
.....คือหลัง่จากมาอ่านพบปัญหาที่หลายคนมีเหมือนกันคือย่อรูปไม่สำเร้จ
ทั้งๆที่พี่หมูแดงก็อธิบายอย่างละเอียดที่สุดแล้ว.....แต่หลายคนก็ไปติดอยู่ที่บางขั้นตอน
แล้วพี่หมูแดงก็มาอธิบายซ้ำอีก แต่มีอีกหลายคนก็ยังทำไม่ได้อยูอีก...

ผมมาพบว่าปัญหามันอยู่ที่ <span style='color:red'>ใน Windows Xp บางเครื่อง ไม่มี Microsoft Photo Editor.....</span>
และเมื่อไม่มีโปรแกรมนี้ในเครื่อง แล้วไปพยายามทำแบบที่ว่ามันมีอยู่ ก็เลยไม่สำเร็จ...

.....สาเหตุุที่ XP รุ่นใหม่ๆไม่มีตัวนี้มาด้วยนั้นจากการศึกษาเขาว่าเนื่องจากมันไม่สัมพันธ์กับระบบ Microsoft Office รุ่นใหม่ๆตั้งแต่รุ่น 2003 ขึ้นมา....
.....แต่ XP บางเวอร์ชั่นแม้จะมีติดมาด้วยแล้ว พออินสตอล Microsoft Office ลงไป เครื่องมันจะถอด Microsoft Photo Editor ออกโดยอัตโนมัติ...

แล้วจะแก้ไขอย่างไร...ได้ครับ พอจะมีวีธีดังนี้
1 หากอยากได้ Micresoft Phots Editor และคุณก็มีแผ่น Microsoft Office อยู่ ก็สามารใส่ลงไปได้ ไม่เข้าใจวิธีก็ถามมา
2 ใช้ย่อด้วยโปรแกรมแต่งรูปที่ส่วนมากมักจะมีกัน เช่น ACDSee,Photo Shop หรือโปรแกรมเกี่ยวกับการแต่งรูปอื่นๆ ซึ่งทำได้ทั้งนั้น
3 ถ้าไม่มีโปรแกรมแต่งรูปเลย และต้องการ ก็บอกมาจะหาโปรแกรม มาให้ดาวน์โหลดกันครับ