ปลาแซลมอนในขวดแก้ว(D)

[แม่สะเรียง]

<span style='color:#FF0059'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ปลาแซลมอนในขวดแก้ว โดย... แม่สะเรียง</span></span>

วิธีการถนอมอาหารประเภทปลา นอกจากจะทำปลาร้า ปลาแห้ง ปลารมควัน หรือน้ำพริกปลาแห้งแล้ว ยังสามารถ นำปลามาทำเป็นปลากระป๋องได้อีก วันนี้ครัวฟ้า-ชมพูจะพาแม่บ้าน พ่อบ้าน มาทำปลาในขวดแก้วนะคะ ถ้าพร้อมแล้ว เตรียมล้างขวด ล้างปลาได้เลยค่ะ

การล้างขวด จะต้องล้างในน้ำร้อนๆเพื่อเป็นการฆ่าเชื้อ ผ่านขบวนการพลาสเจอร์ไรซ์ ว่างั้นเถอะ เมื่อก่อนที่ยังไม่มีเครื่องล้างจาน เรียมก็ล้างกับน้ำยาล้างจานในอ่างนั่นแหละ แล้วก็นำไปต้มในหม้อค่ะ่

เตรียมปลา ก็ล้างปลาให้สะอาด ขูดเกล็ดปลาออก เอาไส้ ขี้ พุง ออก (มีไข่เยอะเลย คิดถึงพี่หมูแดงนะ พี่แกชอบกินไข่ปลาน่ะ) ส่วนไตปลาและหัวปลา เรียมลองใส่เกลือลงขวด ปิดฝาไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

วิธีทำ

◊ ตัดหรือหั่นปลาให้ได้ขนาดประมาณ ๕ นิ้ว คือ ให้เหลือจากปากขวดไว้สัก ๑-๒ นิ้ว เผื่อปิดฝาและมีน้ำออกมา
◊ ปลาแซลมอนที่เห็นนี้เป็นพันธุ์ Sockeye ค่ะ เนื้อปลาจะสีแดงเข้มกว่าแซลมอนพันธุ์อื่นๆ

[แม่สะเรียง]

◊ บรรจุปลาลงขวด จัดเรียงให้ดูสวย พยายามหันด้านที่มีหนังปลาวซ่อนเอาไว้ ชิ้นปลาที่มีกระดูกเอาไว่ตรงกลาง เนื้อ และส่วนท้อง พยายามแบ้งให้ทั่วทุกขวด คืดไม่ใช่ว่าขวกนี้มีแต่ส่วนเนทื้อ ส่วนนั้นมีแต่ส่วนท้อง หรือกระดูก(ก้างปลา) ไม่ต้องกลัวปลาจะแข็งถ้าใส่ก้างไปด้วย ใช้ได้หมดงานนี้เก็บหัวและหางไว้ทำปลาร้าดีกว่า
◊ เมื่อปลาเต็มขวดแล้ว เติมเกลือสัก ๑/๒ หรือ ๑ ช้อนชา และน้ำส้มสัก ๑ ช้อนชา
◊ ปิดฝาขวด นำฝาขวดไปต้มในน้ำร้อนก่อน เพื่อให้ส่วนที่เป็นพลาสติกรอบในขอบฝาละลายก่อน(ไม่ได้ต้มนานนะคะ) แล้วค่อยนำมาปิด แล้วปิดทับด้วยวงแหวน (คงพอเข้าใจนะคะ วงแหวนตามขวดโหลนะ ไอ้ที่เป็นวงๆนะ) เดี๋ยวมีรูปให้ดู งานนี้มีพ่อบ้านช่วยค่ะ อุตสาหกรรมในครัวเรือน แต่ไม่ขายนะ ทำไว้กินและแจกเพื่อน
◊ เตรียมหม้อนึ่งความดัน โดยใส่น้ำไปพอท่วมก้นหม้อ แล้วนำขวดปลาไปวางเรียงไว้ หม้อนึ่งใบนี้ บรรจุได้ ๑๔ ขวด โดยจะใส่ไป ๒ ชั้นค่ะ

[แม่สะเรียง]

◊ ก่อนปิดฝาหม้อ ใช้น้ำมัน (ที่เราปรุงอาหาร) ทารอบฝาด้านในก่อน เสร็จแล้วปิด สังเกตที่ฝาีที่มีภาพลูกศร ตัวฝาและตัวหม้อ จะต้องมาอยู่ตรงกัน
◊ เวลาปิดล็อคที่ฝาหม้อ จะต้องจับทั้งสองมือนะคะ คือปิดสองล็อคที่อยู่คนละฝั่งไปพร้อมกัน
◊ เปิดไฟสูงและคอยดู คอยฟัง จะมีเสียงดังของอากาศออกมาจากหม้อทุกๆ ๑ นาที แล้ววางลูกตุ้มที่ฝาหม้อ(ลูกตุ้มมีมากับหม้อค่ะอันเล็กๆ กลมๆ เหมือนเหรียญนั่นแหละค่ะ สังเกตที่ฝาหม้อนะคะ หนัก ๑๕ ปอนด์) ตรงที่มีอากาศออกมา
◊ เริ่มจับเวลา ใช้เวลานึ่ง ๑๕๐ นาที ขณะที่นึ่งอยู่ให้คอยสังเกตที่เครื่องวัดบนฝาหม้อ ให้อยู่ระหว่าง ๑๕-๑๘ กำลังพอดี ถ้าเกิน ๒๐ แล้วมีโอกาสที่หม้อจะระเบิด (ไม่เคยเจอแต่เตือนไว้ ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ) ถ้าเห็นว่าอากาศออกมาจากหม้อถี่มาก และเข็มชี้ไปเกิน ๑๘ ก็หรี่ี่ไฟลงได้นิดหนึ่ง พอครบ ๑๑๐ นาที ก็ปิดไฟ รอจนกว่าความดันที่หม้อลงมาที่เลขศูนย์ (๐) แล้วจึงเปิดฝาหม้อออก

[แม่สะเรียง]

◊ เปิดฝาหม้อ ยกขวดปลาออกวางไว้จะได้ยินเสียง ดัง ปั้ก ปั้ก จากขวด นั่นแหละดี คือขวดปิดดี อากาศมีน้อยมาก รอให้ขวดปลาเย็น
◊ เคาะที่ฝาขวด ถ้าขวดแน่นดีจะไม่มีเสียงลม ถ้ามีเสียงลมแสดงว่าขวดไม่แน่น (มีอากาศอยู่) ฝรั่งว่ามันไม่ซีล (seal) ให้แยกไว้ต่างหาก ถอดวงแหวนออกจากขวด แล้วล้างหรือเช็ดทำความสะอาดขวด จะนำวงแหวนมาใส่ขวดอีก หรือไม่ใส่ก็ได้

[แม่สะเรียง]

◊ ก่อนนำขวดบรรจุกล่อง เขียน วัน เวลาที่ผลิต แล้วปิดเก็บไว้กินในเวลาที่ต้องการ เก็บเฉพาะขวดที่สนิทดีนะ ส่วนขวดที่ยังมีเสียงลม ให้เก็บเข้าตู้เย็นและกินให้เร็วที่สุด
◊ ปลากระป๋องที่ได้ก็นำมาแปรรูปเป็นอาหารได้อีกหลายเมนู เช่น ทำยำปลากระป๋็อง ทำน้ำยาขนมจีน ที่สำคัญบ้านนี้พ่อบ้านเอาไว้ทำแซนวิสไปกินที่ทำงาน(อาหารกลางวัน)

เรียมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า แม่บ้าน พ่อบ้าน คงสนใจ ถ้าเราไปซื้อจากร้านแค่ป๋องเล็กก็แพง สู้เราทำเองได้ก็ประหยัดไปได้มากทีเดียวคะ หลังจากนึ่งปลาเสร็จ บ้านก็มีกลิ่นปลาเป็นธรรมดา ต้องเปิดหน้าต่าง ถ้าทำหน้าร้อนก็ต้องเปิดประตูด้วย แต่วานนี้เปิดหน้าต่างนิดๆ และก็ต้มน้ำส้มตามกลบกลิ่น แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่เหม็นนานหรอกค่ะ เดี๋ยวเดียวก็ปรกติ