ครัวไกลบ้าน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>Carrot Souffle โดย... ออย</span></span>

Carrot Souffle อาหารต้านมะเร็ง ตอนแรกออยสองจิตสองใจอยู่นานค่ะ ว่าจะเอาเมนูนี้มาลงที่ครัวดีหรือเปล่า เพราะออยคิดว่าท่าทางคนครัวนี้จะชอบของแซ่บๆมากกว่า แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจ เหลือบไปเห็นกระทู้ของพี่เดมี่เข้าที่ห้องคุยกันเจ๊าะแจ๊ะ ออยหวังว่าพี่เขาจะมีตัวเลือกในการทำอาหารสำหรับคนเป็นโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นนะคะ

ที่ออยบอกว่าอาหารต้านมะเร็งก็เพราะว่าตอนนี้คุณแม่สามีไม่สบายค่ะ เป็นมะเร็งที่ตับอ่อนระยะแรกเริ่ม แต่ทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างทำคีโมรอบสุดท้าย การทำคีโมนี้ คุณแม่ได้รับผลข้างเคียงมากถึงกับอ่อนเพลีย เดินไม่ไหว เบื่ออาหาร น้ำหนักลงเร็วมาก ตัวแทบจะเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้ว สามีออยเลยจัดโปรแกรมอาหารให้แม่เขาค่ะ วันนี้เขาให้ออยทำแครอทซุฟเฟล่ให้แม่ เพราะว่าแครอทช่วยได้ดีในเรื่องมะเร็ง แถมเมนูนี้ให้พลังงานสูง แม่จะได้อ้วนเร็วๆค่ะ

ขอออกตัวก่อนนะคะว่าเมนูนี้ออยทำครั้งแรก แต่ออยเคยกินมาก่อนหน้านี้แล้วตามร้านอาหาร ส่วนใหญ่พวกฝรั่งชอบกันมาก ดังนั้นคนไม่ป่วยก็กินได้ค่ะ แต่อ้วนนะขอบอก สูตรนี้ออยก็ได้มาจากท่านศาสตราจาร์ยคนเดิมเองหละค่ะ (คุณแม่สามี) ท่านเองก็ได้สูตรนี้มานานแล้วเหมือนกัน วันนี้ออยทำแค่ครึ่งสูตรนะคะ เพราะที่บ้านมีกับข้าวหลายอย่างแล้ว



ส่วนผสม

◊ แครอท ๒ ปอนด์
◊ เนยละลาย ๑/๒ ถ้วย
◊ น้ำตาลทราย ๑ ถ้วยพูนๆ
◊ แป้งสาลีอเนกประสงค์ ๓ ช้อนโต๊ะ
◊ ผงฟู (Baking powder) ๑ ช้อนชา
◊ วานิลา ๑ ช้อนชา
◊ ไข่ ๓ ฟอง
◊ น้ำตาลไอซิ่ง (confectioners' sugar) ๑ ช้อนชา



วิธีทำ

◊ เปิดเตาอบรอไว้ที่ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ หรือเท่ากับ ๑๗๕ องศาเซลเซียส เวลาที่ใช้อบ ๓๐-๓๕ นาทีจ้า
◊ ล้างแครอทให้สะอาด ใครจะใช้แครอทแบบไหนก็ได้นะคะ ผิวดำๆเกลาออกเสียบ้าง ส่วนออยใช้เบบี้แครอทแบบพร้อมใช้ได้เลย เขาทำความสะอาดมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ
◊ ตัดเป็นชิ้นย่อมๆหน่อย เวลาต้มจะได้สุกเร็วๆ ทั่วๆ จากนั้นเทน้ำใส่ให้ท่วมแครอท โรยเกลือลงไปนิดหน่อย



นำขึ้นตั้งไฟประมาณ ๑๘-๒๐ นาที หรือจนกระทั่งแครอทสุกนิ่มดี



เทน้ำออก แล้วบดแครอทให้ละเอียด แต่บ้านออยไม่มีที่บดค่ะ เลยใช้เครื่องปั่นทุนแรงเอา ไม่ต้องให้ละเอียดมาก



จากนั้นนำเนยไปละลายให้เหลว เทใส่ลงในแครอทบด ตามด้วยน้ำตาลทราย ผงฟู วานิลา ไข่ และแป้ง คนให้เข้ากันดี รูปนี้กำลังใส่เนยค่ะ



ใส่น้ำตาล



ใส่ผงฟู



ใส่วานิลา



ใส่ไข่



ใส่แป้ง



เทใส่ลงในภาชนะทนไฟ สักเลยครึ่งถ้วยมาหน่อย อย่าเทให้เต็มมาก เพราะตอนสุกแครอทเนื้อจะฟูขึ้นมาอีกค่ะ



โรยน้ำตาลไอซิ่งข้างบนสุด เวลาอบน้ำตาลไอซิ่งจะละลาย ออกมาเสร็จหน้าข้างบนจะเป็นสีส้มเข้มค่ะ นำเข้าเตาอบ ใช้เวลาอบ ๓๐-๓๕ นาที



อบเสร็จแล้วออกมาเป็นอย่างนี้ค่ะ



ออยเอามาโรยไอซิ่งโชว์สวยๆอีกหน่อย แต่ไม่นานน้ำตาลก็ละลายหายไปอีกแล้ว เพราะมันยังร้อนอยู่ รสชาติออยว่าเหมือนสังขยาฟักทองบ้านเรานะ

ขอบอกว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทำของหวานกินเอง เพราะว่าเป็นคนไม่ชอบทำของหวานทั้งไทยและฝรั่ง เนื่องจากทำไม่เป็นค่ะ แต่พอมาเห็นสูตรนี้ของน้องออยแล้ว เอ๊ะ ไม่น่าจะยาก น่าจะพอเอาตัวรอดได้ ก็เลยออกมาเห็นดังในรูปนี้ละจ๊ะ แต่ว่าในสูตรน้องออยไม่บอกว่าให้อบนานกี่นาที เอมี่ก็เลยกะเอา ตื่นเต้นก็ตื่นเต้นน่ะ กลัวไหม้ แอบๆแง้มดูในตู้อบทุกๆ ๑๐ นาที สรุปใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาทีค่ะ หอม กลิ่นและรสชาติคล้ายๆกับสังขยาฟักทองบ้านเรา เหมือนอย่างที่น้องออยบอกจริงๆด้วยละ



ขอบคุณสำหรับสูตรน่ะค่ะน้องออย ทำครั้งนี้ยังกะส่วนผสมไม่ค่อยถูก ก้านยาวบอกไม่ค่อยหวาน เพราะเอมี่กลัวว่าจะหวานไปเลยใส่น้ำตาลนิดเดียว



หน้าตาดีนะเนี่ย

ออกมาจากเตาร้อนๆค่ะ คุณครูระวังด้วยนะคะ



ดูใกล้ๆเป็นแบบนี้ค่ะ



ใส่ถาดไม่หมด เลยลองใส่ถ้วยด้วยค่ะ



รอให้เย็นสนิทจึงแคะออกมาแล้วเป็นแบบนี้ น้ำตาลไอซิ่งละลายไปหมดแล้วค่ะ ไม่อยากโรยเพิ่มเกรงว่าจะหวานเกินไป คุณครูคนสวยคงไม่ใจร้ายหักคะแนนน่ะ



ในถาดตัดเป็นชิ้นๆค่ะ เนื้อขนมเนียน หอม หวานกำลังดี อร่อยมากๆค่ะ แต่ตอนที่จะตัดขนมล้างมีดผ่านน้ำร้อนจัดๆซักครู่ (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ) และต้องรอให้เย็นสนิทจริงๆค่ะ รอเป็นชั่วโมงเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นจะเละเป็นโจ๊กเลยค่ะ

คุณครูออยอยู่ไหนเอ่ย แนทเอาการบ้านมาส่งค่ะ จริงๆแล้วแนททำกินบ่อยๆค่ะ ใช้สูตรจากอินเตอร์เน็ตนะคะ



วันนี้ลองสูตรครูออยค่ะ

หน้าตามันไม่ค่อยสวย อย่าหักคะแนนนะคะคุณครู เพราะว่าตอนแรกมันฟู แต่พอมันเย็นมันเป็นเช่นดังรูป แต่หอมมากเลยค่ะ



ดูใกล้ๆ โรยน้ำตาลแต่ละลายเร็วมากเลย

ทำแค่ครึ่งสูตรค่ะ อันนี้ Before ค่ะ ไม่มีน้ำตาลไอซิ่งนะคะ



ใส่ถ้วยวุ้นค่ะ



หน้าจะไม่แฉะค่ะอย่างที่เห็นค่ะแต่ด้านในไม่แห้ง



อร่อยค่ะ กลมกล่อม ใช้ไซรัปข้าวโพดแทนน้ำตาล ตามคำแนะนำของคุณ senithat ค่ะ



อร่อยมากค่ะคุณออย ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ แฟนดิฉันกินกับไอศกรีมคนเดียว ๔ ถ้วยค่ะ ทำไม่หวานมาก กำลังพอดีมากๆ



เนื้อข้างในค่ะ



ยกทั้งถาดเลยดีมั้ยค่ะ ได้รสชาติแครอทเต็มๆเลยค่ะ ที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็นไว้กินพรุ่งนี้ค่ะ

ไม่เคยทำของหวานที่มีส่วนผสมของแครอทเลยในชีวิต เพราะไม่ชอบกลิ่นแครอท แต่พอทำเมนูนี้ของพี่ออยแล้วอร่อยมากถึงมากที่สุด นักเรียนทำครึ่งสูตรเหมือนคุณครูเปี๊ยบเลย เพราะต้องกินคนเดียว นี่ยังรอดูทีท่าคุณพ่อบ้านก่อนว่าจะกินด้วยหรือเปล่า ขอบคุณสำหรับสูตรขนมเพื่อสุขภาพอร่อยๆอย่างนี้นะพี่ออย น่ากินมั้ยเอ่ย ไอ้ที่แหว่งๆไปน่ะเอ้ตัดให้คุณครูออยประเดิมก่อนเลยนะเนี่ย



ชิ้นนี้ของครูออยค่ะ เอาไปเลยชิ้นใหญ่ๆ (ไม่ใช่อะไรหรอก อยากได้คะแนนเยอะๆน่ะค่ะ) ครูออยอย่าลืมมาตรวจการบ้านนะ

มาแล้วค่ะ หลังจากจดๆจ้องๆหาแครอท เพราะมัวแต่หาแครอทออสเตรเลีย แครอทออสเตรเลียจะแพงกว่าแครอทของจีน ประมาณเท่าตัวค่ะ แต่ด้วยความที่ครูที่เรียนทำขนมด้วยสอนว่า แครอทของออสเตรเลียจะมีเนื้อที่หวานกว่า ก็เลยควานหาค่ะ จนมาเจอที่แมคโครเข้า แปะป้ายไว้ว่าแครอทจีน ๒๔ บาท แครอทออสเตรเลีย ๓๙ บาท ไม่รอช้ารีบซื้อรีบชั่งกลัวเค้าเปลี่ยนใจบอกว่าแปะป้ายผิดค่ะ เลยมีการบ้านส่งน้องออย



ขอบอกว่าอร่อยมากๆค่ะ สามีทานไปนั่งนึกไปว่าเหมือนอะไร จนมีคำตอบว่าเหมือนสังขยาแต่อร่อยกว่าด้วยเนื้อแครอทค่ะ ขอบคุณสำหรับสูตรดีๆที่แบ่งปันมาค่ะ รูปเต็มๆทำครึ่งสูตรค่ะ ถาดขนาดนี้กำลังดีค่ะ



ชิ้นนี้ให้ครูออยชิมโดยเฉพาะค่ะ

อร่อยมากค่ะครูขา ทำในถาดมัฟฟินค่ะอันนี้ ผลจากการขนมอันนี้ไปแบ่งให้เพื่อนบ้าน เลยโดนหอมมือขอบคุณ เป็นทุกข์ไปพักหนึ่งค่ะ



ส่วนอันนี้วางบนถ้วยเล็กๆอีกที เนื่องจากถาดมัฟฟินเต็มค่ะ อยากถามครูว่ามันเป็นขนมของชนชาติไหนคะ จะได้อธิบายฝรั่งถูกค่ะ (แต่ไม่ใช่เพื่อนบ้านคนนี้นะคะ)