สังขยาฟักทอง สังขยาแครอท สังขยาข้าวโพด สังขยาฟักทองจิ๋ว (D)

[ซัมเมอร์]

หั่นออกมาชิ้นหนึ่งให้ดูข้างในค่ะ

[ซัมเมอร์]

ส่วนชิ้นนี้คือชิ้นที่ตัดออกมา ทำเสร็จชิ้นนี้หมดเรียบในพริบตา ใช้นมสดก็อร่อยไม่แพ้กะทิค่ะ

[Kiblemongrass]

ไปเดินในเมืองค่ะเจอฟักทองอันแสนจะหายากกิ๊บโผเข้าใส่ทันที เพราะกิ๊บเป็นคนชอบกินฟักทองมาก แต่เคยได้ข่าวมาว่าฟักทองฝรั่งสีส้มมันไม่มันแบบฟักทองบ้านเรา แต่ก็เอาเถอะค่ะ ยังไงก็หลวมตัวมาอยู่ที่นี่แล้ว ว่าแล้วก็จ่ายไป ๑๐ โครนา ประมาณ ๕๐ บาทไทยค่ะ ไม่เคยกินก็ต้องลอง ลูกขนาดพอดีอย่างนี้มันน่าจับมาทำสังขยาสูตรครูซัมเมอร์

[Kiblemongrass]

เปิดผอบออกมาแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ ตื่นเต้น

[Kiblemongrass]

นี่เวลาผ่านไป ๑/๒ วัน เอาไว้กินหลังข้าวเที่ยง ตัดออกมาแล้วสังขยามันหดลงไปค่ะ น่าเสียดายจัง เห็นสีแจ๋นๆเจ้าฟักทองสีส้มลูกนี้รสชาติไม่แพ้ฟักทองไทยเลยค่ะ แต่ต้องลองแบบลูกใหญ่พี่เบิ้มที่เค้าเอามาใช้วันฮัลโลวีนว่ารสชาติจะออกมาเหมือนกันมั้ย กิ๊บไม่มีทั้งใบเตยใบตองจะเอามาขยำค่ะคุณครู ใช้แต่ตะกร้อมือตีเอา มันคงเป็นเหตุผลที่ไม่ค่อยจะขึ้นฟูมั้งคะ คุณครูมีวิธีทำให้ขึ้นฟูได้โดยไม่ต้องขยำกับใบตองหรือเปล่าคะ แต่ถึงมันจะหดลงไปก็ขอบอกว่าสูตรนี้ส่วนผสมลงตัว ออกมารสชาติดีมากๆ อร่อยไม่แพ้กะทิจริงๆค่ะ ที่นี่มีแต่กะทิกระป๋อง กลิ่นไม่สดเหมือนเมืองไทย ถ้าให้ทำอีกทีก็สูตรครูซัมเมอร์นี่ละค่ะ ขอบคุณสูตรอร่อยๆนะคะ

[นิรินธนา]

หวานมัน อร่อยดีแท้ ฟักทองไทยค่ะไม่ใช่ฟักทองฝรั่ง งานนี้ไม่มีใครช่วยก็ไม่เป็นไร หนูนายินดีเหมาหมดค่ะ อยากให้หน้าหนาวผ่านไปไวๆจัง จะเอาเม็ดไปปลูกให้ฟักทองไต่รั้วบ้านให้มันไปเลย มันเขี้ยวค่ะ ลูกเดียวไม่เคยพอ

[นิรินธนา]

มาแล้วจ้ายกมาทั้งลูกเลย ดาวกระจุยค่ะงานนี้ นึกว่าก้นจะทะลุซะแล้ว เนื้อฟักทองแน่นมาก แข็งจนต้องออกแรงกดแรงๆค่ะ แบบว่าบอกได้เลยไม่เคยแกะสลักมาก่อน ทำดาวดวงเดียวก็ยากแล้วจ้า คุณฟักทองสีเหลืองผิวบางจัดทนพิษบาดแผลไมไหว เพราะน้องนิคหลานรักฟัดซะน่วม น้านาก็เอามาอบไอน้ำใส่ไข่ใส่นมให้ดิบดี แตกกระจายไม่รักสวยรักงาม ไม่รักษาหน้าคนทำบ้างเลย

[แตง]

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'><span style='color:#FF0059'>สังขยาแครอท โดย... แตง</span></span>

ตั้งใจทำสังขยาแครอทแต่ลืมเอาถาดที่ใช้นึ่งไปด้วย เอาไปแต่หม้อกับซึ้งนึ่ง เลยออกมาหน้าตาเป็นอย่างนี้

[แตง]

ขนมนี้ทำไว้ตั้งแต่คริสต์มาสตรอนกลับไปดูบ้าน หอบหิ้วซึ่งสำหรับนึ่งไปด้วยแต่ลืมเอาถาดนึ่งไป ก็เลยต้องใช้วิธีอบแทน หน้าตาออกมาเลยเหมือนหม้อแกงไปเลย เพราเอาหอมแดงโรยหน้าด้วยเพื่อลดคอเลสเตอรอลน่ะ เราเป็นคนชอบทานขนมแต่ก็ต้องให้มีประโยชน์ด้วยไม่ใช่มีแต่ความหวานอย่างเดียว วันนี้ก็เลยเอาแครอททำ รสชาติจะเหมือนกับสังขยาไม่เหมือนหม้อแกงนะ

เครื่องปรุง

◊ ไข่ไก่ ๓ ฟอง
◊ แครอทต้มหรือนึ่งสุกบดละเอียด ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง
◊ หัวกะทิ ๑ ถ้วยตวง
◊ น้ำตาลทรายแดง ๒/๓ - ๑ ถ้วยตวง (แล้วแต่ว่าชอบหวานมากน้อยแค่ไหน ถ้าหาน้ำตาลปึกได้ให้ใช้น้ำตาลปึกแทน)
◊ เกลือป่น ๑/๔ ช้อนชา

สูตรนี้ทำได้ ๑ ถาดขนาด ๘ หรือ ๙ นิ้ว

[แตง]

เริ่มทำก็ตอกไข่ใส่ชาม ใส่น้ำตาล เกลือลงไป

[แตง]

ตีไข่ น้ำตาลและเกลือให้เข้ากัน ตีจนไข่ขึ้นฟู แล้วใส่น้ำกะทิลงไปได้ สำหรับผู้ใช้กะทิผงก็เอากะทิผงละลายกับน้ำอุ่นก่อน ของเราใช้น้ำอุ่น ๑ ถ้วยต่อกะทิผง ๑ ซอง คนให้กะทิละลายเข้ากันกับน้ำแล้วเทใส่ในชามไข่ได้ นี่เป็นภาพกะทิที่ละลายแล้ว

[แตง]

ใส่กะทิแล้วก็คนให้เข้ากันแล้วใส่แครอทบดลงไปได้

[แตง]

คนให้ทุกอย่างเข้ากันดี เป็นอันว่าใช้ได้

[แตง]

ทีนี้ก็เทใส่ถาดสำหรับนึ่งได้ แต่ว่าวันนี้ลืมเอาถาดนึ่งมาด้วยเลยเทใส่ถาดอบแทนเป็นอย่างนี้

[แตง]

ถ้านึ่งก็นึ่งไฟแรงประมาณ ๑๕-๒๐ นาทีหรือจนสุก ถ้าอบก็ใช้ไฟอบ ๓๕๐ องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ ๒๕-๓๐ นาที นี่เป็นภาพที่สุกแล้ว