ในชีวิตก็ตำน้ำพริกเป็นอยู่ ๒ อย่างนี่ละค่ะ น้ำพริกกะปิกับป่นปลาย่าง ทำซ้ำกันไปซ้ำกันมา ก็ตำอย่างอื่นไม่เป็นน่ะค่ะ ที่บ้านแม่ชอบทำเอง เพราะชอบใส่เนื้อปลาเยอะๆ ไม่เน้นพริกเหมือนที่ในตลาดเขาขาย เพราะที่บ้านกินเผ็ดไม่ค่อยได้กัน ที่ตลาดเขาก็มีแบบป่นปลาร้าด้วยนะ ใครขี้เกียจตำเองก็ซื้อเขาเอา ง่ายดี ปลาที่แม่ชอบซื้อมาทำคือปลารัง ยิ่งตัวใหญ่ๆนะ แม่ชอบมาก เพราะเนื้อเยอะ แล้วเวลาเอาไปย่างเนี่ยกลิ่นหอมมากเลยค่ะ แต่มาอยู่ที่นี่จะใช้ปลาแมคเคอเรลนี่ละค่ะ พอแทนกันได้ เนื้อเยอะดี ประหยัด คุ้ม ถ้าใครมีปลาอื่นมาแนะนำก็บอกกันบ้างนะคะ เดี๋ยวจะได้ไปตามล่าหามาทำบ้าง ดูหน้าตาตอนเสร็จแล้วก่อนนะคะ
เห็นสีก็รู้เลยว่าไม่เผ็ดแน่นอน ถ้าไปเทียบกับที่เขาขายกันในตลาดแล้วก็คนละขุมกันเลย
เครื่องปรุง
◊ เนื้อปลา
◊ กะปิ
◊ หอมแดง
◊ กระเทียม
◊ พริกชี้ฟ้า
◊ น้ำมะนาว
◊ น้ำตาลทราย
◊ น้ำร้อน
◊ ผักกาดขาวสด (ที่บ้านชอบกินผักกาดขาวแกล้มอย่างเดียวเลยค่ะ ผักประจำป่นปลาย่างเลย)
วิธีทำ จัดแจงเอาขึ้นย่างทุกอย่างเลยค่ะ ให้กลิ่นหอมๆ จะได้อร่อยๆ กะปิถ้ามีใบตองห่อก็จะดีทีเดียว
ย่างเสร็จแล้วก็ประมาณนี้นะคะ อย่าย่างปลานานเกินไปเพราะเนื้อปลาจะแข็งซะก่อน อีกอย่างถ้าย่างนานๆแล้วกลิ่นกะปิมันจะลอยไปติดจมูกเพื่อนบ้าน อาจมีอาการช็อคคาบ้านกันได้ค่ะ
แล้วก็แกะเนื้อปลาออกมา ระวังก้างดีๆ แกะเอาก้างออกให้หมดนะคะ เดี๋ยวกำลังกินอร่อยๆก้างดันติดคอซะนี่
ได้เวลาตำแล้วก็จัดการเอาเครื่องใส่ครกได้เลย ถ้าจะให้ดีเป็นครกหินจะดีกว่า แต่ตอนนี้ไม่มี ก็เอาครกส้มตำใช้ไปก่อนแล้วกันค่ะ
ตำแหลกหรือยังเอ่ย
แหลกตามชอบแล้ว ตามด้วยเนื้อปลาพระเอกของงานนี้ค่ะ
เข้ากันดีแล้วค่ะ
ใกล้จะได้กินแล้วค่ะ เอาที่ตำเมื่อกี้โยนมันลงหม้อตั้งไฟไปเลย ไฟอ่อนๆพอนะคะ แล้วรินน้ำร้อนลงไปนิดหน่อยพอขลุกขลิก ระวังถ้ามากไปจะจืดค่ะ (เคยพลาดมาแล้ว)
แล้วก็คนให้เข้ากันดีแบบนี้เลยค่ะ สีช่างขาวเหลือเกิน น่าอายนะเนี่ย
สุดท้ายแต่ยังไม่ท้ายสุด เติมน้ำตาลทราย และน้ำมะนาว ลงไปตามชอบเลยจ้า
คราวนี้ท้ายสุดจริงๆ จัดเสริฟคู่กับผักกาดขาวสดๆ กรอบๆ ชิมกันได้เลยค่ะ
