ยำไก่ตะไคร้ ยำไก่ใส่แอ๊ปเปิ้ล ยำไก่ใส่หัวปลี ยำไก่อบ(D)

[{@-Enya-@}]

การย่างหัวปลีต้องใจเย็นๆสักนิดนะคะ หากใจร้อนใช้ไฟแรงๆนอกจากหัวปลีจะไม่สุกแล้ว ยังอาจจะทำให้ไหม้เสียของได้นะคะ ดังนั้นแล้ว อยากทานของอร่อย ต้องใจเย็นนิดจ้า ซึ่งความแรงของไฟในเตา ก็จะประมาณในรูปนี้นะคะ ไม่ให้มีเปลวไฟ แต่ว่า ก็ไม่ให้มอดดับเกินไป จนไม่ได้ยินเสียงฉู่ฉ่า ก็ย่างไปเรื่อยๆนะคะ พอด้านนึงสุก กลีบหัวปลีด้านนอกเกรียม ก็กลับอีกด้านมาย่างค่ะ ย่างจนสุกไปทั้งสองด้าน (ประมาณนี้) ก็เอาขึ้นได้แล้วค่ะ เปลือกด้านนอกจะไหม้อย่างนี้แหละค่ะ แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเวลาทาน เราจะลอกเปลือกด้านนอกทิ้งไป เหลือแต่ด้านในไว้ทานน่ะค่ะ

[{@-Enya-@}]

จากนั้นก็นำหัวปลีที่ย่างไว้ ไปพักให้เย็นสักหน่อยค่ะ (หัวปลีนี่ย่างไว้ข้ามวันข้ามคืนได้นะคะ)

[{@-Enya-@}]

พอหัวปลีเย็นตัวลง สามารถจับได้ด้วยมือเปล่าแล้ว เราก็เริ่มมาทำการแกะเปลือกนอกของหัวปลีออกค่ะ โดยการเอามีดตัวหัวตัดท้ายหัวปลีซะหน่อยประมาณด้านละ ๑ ๑/๒-๒ นิ้ว จะได้แกะกลีบ (หรือกาบ) ออกง่ายๆตามภาพนี้เลยค่ะ (จุดที่ตัด ดูตรงลูกศรสีขาว) แต่อันนี้ตัดแล้วนะคะ

[{@-Enya-@}]

เมื่อปอกเปลือกด้านนอกที่ไหม้เกรียมทิ้งไปหมดแล้ว ก็จะเหลือเนื้อหัวปลีด้านในเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ เราจะใช้เนื้อหัวปลีด้านใน มายำกันจ้า ใครที่แน่ใจว่าหัวปลีที่ตัวเองย่างเนี่ยจะสุกแน่ไหม ลองชิมดูนะคะ ถ้ายังฝาดอยู่ แสดงว่าไม่สุกค่ะ แต่ฝาดนิดๆไม่เป็นไร เพราะเดี๋ยวพอเคล้ากับเครื่องยำ ก็จะไม่รู้รสฝาด แต่ถ้าฝาดมาก (แสดงว่ายังดิบอยู่พอควร) ก็เอาไปต้มหรือลวกอีกสัก ๒-๓ นาทีนะคะ รสฝาดจะได้หายไป ถ้าหัวปลีที่แกะกาบนอกออกแล้ว มีรอยเปื้อนหรือรอยไหม้ติดมาที่หัวปลีด้านใน เอาไปล้างน้ำพอผ่านๆให้สะอาดสักหน่อยนะคะ

[{@-Enya-@}]

จากนั้นก็ฉีกเป็นชิ้นๆเอาไว้นะคะ ชิ้นพอคำ ไม่ต้องใหญ่มาก เดี๋ยวเคี้ยวลำบาก แล้วก็พักไว้ก่อน

[{@-Enya-@}]

วิธีทำขั้นตอนที่ ๒ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เราจะมาทำน้ำพริกเผากันแล้วค่ะ หรือหากใครจะทำไว้ก่อนก็ได้ ไม่เป็นไร สัดส่วนเครื่องน้ำพริกเผา อยู่ด้านบนนะคะ ส่วนนี่ก็เป็นหน้าตาส่วนผสมของเครื่องน้ำพริกเผาจ้า

[{@-Enya-@}]

กระเทียมนำไปปอกเปลือกออกนะคะ แต่พิมชอบปอกให้เหลือเปลือกบางๆไว้ เพราะมีความรู้สึกเดียวกับพี่จุ๋มว่า เปลือกบางๆเนี่ยแหละค่ะทำให้กระเทียมหอมขึ้น แล้วก็ซอยไว้ ไม่ต้องบางมากค่ะ

[{@-Enya-@}]

ส่วนนี่เป็นหัวหอมนะคะ ปอกเปลือก แล้วก็ซอยไว้ ไม่ต้องให้บางมากเช่นกันนะคะ

[{@-Enya-@}]

พริกขี้หนูแห้ง พริกแห้งเม็ดใหญ่ หั่นรวมกันค่ะ

[{@-Enya-@}]

นำหอม กระเทียม ไปเจียวให้เหลืองกรอบ (แต่ไม่ต้องเกรียมนะคะ) เจียวในน้ำมันพอประมาณน่ะค่ะ ซึ่งพอเหลืองกรอบแล้ว ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน ได้ออกมาหน้าตาแบบนี้ค่ะ

[{@-Enya-@}]

พริกแห้ง พริกขี้หนูแห้ง ก็เช่นกันค่ะ นำไปคั่ว เจียวในน้ำมัน พอเหลืองกรอบ ก็ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน

[{@-Enya-@}]

จากนั้นมาเริ่มตำน้ำพริกเผากันค่ะ หากครกหินใบใหญ่ๆมาสักใบนึง (หรือใครจะใช้เครื่องบดก็ได้ค่ะ) เริ่มแรกก็ใส่พริก ๒ ชนิดลงไปก่อน

[{@-Enya-@}]

ตำพริกให้แหลกค่ะ แต่เอาแค่พอหยาบ ไม่ต้องให้ละเอียดเหมือนพริกป่นที่เราใส่ก๋วยเตี๋ยว เพราะถ้าป่นอย่างนั้นเวลานำไปผสมกับน้ำยาแล้วนำมายำ ตอนทานจะรู้สึกเหลวเป็นเลนๆ ไม่อร่อยน่ะค่ะ

[{@-Enya-@}]

พอแหลกได้ที่ก็ใส่พวกหอมกระเทียมที่เจียวไว้ลงไปค่ะ

[{@-Enya-@}]

ตำให้แหลกและเข้ากันดีค่ะ ตรงนี้ใช้เวลาตำก็ประมาณ ๑๕ นาทีได้