หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 13, 2006 2:23 pm
โดย tinytan
อิ่มเดียวหลับเดียวของในหลวงของเรา

อิ่มเดียว หลับเดียว

“ข้าพเจ้าจะนำท่านย้อนหลังกลับไปเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วมา ขณะที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชย์ใหม่ๆ ทรงโปรดการทรงภูษาเป็นสนับเพลาสั้น (กางเกงขาสั้น) ในยามดึกเวรยามรอบพระราชฐานที่ประทับต่างทำหน้าที่กันตามจุดต่างๆ ไม่มีบกพร่อง ไม่มีการละทิ้งหน้าที่ ไม่มีการหยอกล้อเฮฮา ส่งเสียงอึกทึก หรือเล่นหัวกัน เพราะต่างรู้หน้าที่ของตนว่ากำลังถวายอารักขาและถวายความปลอดภัย แด่องค์พระประมุขของชาติ จอมคนของปวงชนชาวไทย แม้จะมิได้ทรงเสด็จออกมาทอดพระเนตร แต่ทุกคนก็รู้หน้าที่กันเป็นอย่างดี ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาว ลมพัดกรูเกรียวเสียงน้ำค้างตก ใครจะนึกบ้างเล่าว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเสด็จลงมา ทรงพระราชดำเนินไปรเวท (เดินเล่น) บางครั้งทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเงียบๆ ล้วก็มีพระราชดำรัสทักทายแก่ทหารมหาดเล็กที่ถวายเวรยาม และนายทหารราชองครักษ์เวร

ประดุจน้ำทิพย์หยาดลงชโลมดวงใจของผู้ที่ทำการอยู่เวรยาม ให้ได้ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณว่าทรงเป็นห่วงผู้ที่มาอยู่เวรยามด้วยความจงรักภักดี แม้เวลาจะดึกดื่นแล้วก็ยังคงอยู่ในหน้าที่ด้วยอาการสงบ ที่เป็นการถวายชีวิตเป็นราชพลี... ตอนนั้น ทรงเสด็จพระราชดำเนินผ่านหน้าข้าพเจ้า ซึ่งกำลังหมอบกราบด้วยความเคารพอย่างสุดชีวิต ทรงหยุดพระราชดำเนินแล้วมีพระราชดำรัสเรียกชื่อของข้าพเจ้า จากนั้นทรงพระราชดำรัสต่อไปว่า “ชีวิตมนุษย์เรานี่ อิ่มเดียว หลับเดียวเท่านั้น” ทรงเสด็จพระราชดำเนินผ่านไป จนลับพระองค์ ข้าพเจ้าทบทวนพระราชดำรัสจนขึ้นใจ นึกไม่ออกว่าทรงหมายความว่าอย่างไร จนรุ่งเช้าออกเวรแล้วจึงได้กลับบ้าน อีกสองสามวันต่อมาได้มีโอกาสเข้าไปคุยธรรมะกับพระที่วัดเทพธิดา จึงได้เอ่ยถามท่านมหาผู้มีเปรียญเป็นดีกรีว่า

“ท่านมหาขอรับ คำว่าอิ่มเดียวหลับเดียวนี่ หมายความว่าอย่างไรขอรับ”

ท่านมหาขมวดคิ้วแล้วย้อนถามผมด้วยความฉงนฉงาย ทำให้ผมยิ่งงงเข้าไปอีกว่า “โยมเฉลิมศักดิ์ไปเอาคำนี้มาจากไหนกันล่ะ” ข้าพเจ้ามิได้บอกท่านตรงๆ ในที่สุดท่านก็ได้ตอบปัญหาให้ผมได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า

“โยมเฉลิมศักดิ์ คำนี้น่ะ ผู้ที่ได้กล่าวถึงนี้เป็นผู้มีความรู้ในพระพุทธพจน์อันมีความหมายยาวให้ย่นย่อ เข้าใจได้ง่ายอีกด้วย คำว่าอิ่มเดียวหลับเดียวนั้น มาจากพระพุทธพจน์ที่ทรงให้ตัดความโลภ เพื่อให้ชีวิตเป็นสุข ให้รู้จักคำว่าพอเพราะมนุษย์เรานั้นจะกินได้มากเท่าใด ก็ไม่เกินอิ่มของตน พออิ่มแล้วก็เท่านั้นแหละ อะไรก็ไม่วิเศษอีกแล้ว การนอนก็เช่นกัน จะนอนนานแค่ไหนก็แค่อิ่มนอนของตัวเองเท่านั้น มนุษย์เรานั้นวุ่นวายอยู่ทุกวันนี้ ก็เพราะไม่รู้จักอิ่ม ได้มาอิ่มแล้วก็ยังอยากได้อีก นอนอิ่มแล้วก็อยากนอนอีกอยากได้ให้มันมากขึ้นไปอีก ถ้าคนเรายึดในหลักว่าอิ่มเดียวหลับเดียว โลกก็จะเป็นสุข ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดี และแสวงหาจนทำให้เดือดร้อนกันไปทั่ว… คนเรานะโยม จะบริโภคอาหารอันอิ่มเอมโอชะสักเท่าใดก็อิ่มเดียว กินข้าวคลุกน้ำปลา หรือกินอาหารจีนรสเลิศชามละเป็นพันบาท ก็อิ่มเดียวแค่อิ่มเท่านั้น กินเข้าไปไม่ได้แล้ว จะนอนบนที่นอนยัดนุ่นรองด้วยสปริง อยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ นอนในสลัมหรือ นอนในคฤหาสน์ ก็แค่นอนหลับอิ่มเดียวเท่านั้น เต็มอิ่มแล้วก็ต้องลุกขึ้นมา ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ก็เท่าเทียมกันด้วยอิ่มเดียวและหลับเดียวนี่แหละ ”

เรารักในหลวง...ขอจงทรงพระเจริญ

โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 13, 2006 8:22 pm
โดย เมล่อนพันช์
ขอให้ท่านทรงพระเจริญยิ่งยืนนานตลอดไปเรารักในหลวงค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 1:38 am
โดย Nicha_Aus
ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน รักในหลวงและประเทศไทยคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 8:06 am
โดย philo
อ่านแล้วก็ได้คิดตามไปด้วย ประทับใจจริง ๆ ขอบคุณน้องตาลที่ส่งมาให้อ่านค่ะ
เรารักในหลวง ฯ ค่ะ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ พ.ย. 24, 2006 10:43 am
โดย อำแดงสวีดา
ขอบใจที่เอาเรื่องดี ๆ มาให้อ่านน่ะตาล ประทับใจจ้า

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ส.ค. 24, 2008 10:44 pm
โดย pensij
ประทับใจจริงๆคะ่ ขอบคุณน่ะคะ่