หน้า 1 จากทั้งหมด 2

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 21, 2006 4:43 pm
โดย sujikan
พอดีมีเพื่อนส่งมาให้อ่านนะค่ะ

เรื่องเล่าจากในวัง...
ผมมีเรื่องที่จะเล่าให้ฟังอยู่เหตุการณ์หนึ่งซึ่งเป็นเรื่องจริง

เหตุการณ์เกิดที่จังหวัดตาก

เมื่อพระเทพทรงเสด็จไปเยี่ยมราษฏรตามที่ต่างๆ

และได้ทรงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนในตลาดสด

และถามความเป็นอยู่กับบรรดาแม่ค้าในตลาด

แต่ก็มาถึงแม่ค้าปลา

ซึ่งพระองค์ทรงตรัสถามว่า

"ปลาพวกนี้ขายอย่างไงจ๊ะ"

แม่ค้าตอบว่า "ที่สวรรคตแล้ว กิโลละ 40 บาท

และที่เสด็จไปเสด็จมากิโลละ 80 บาทจ๊ะ"

เหตุการณ์นี้ ทำให้ข้าราชบริพาลที่ตามเสด็จหัวเราะกันทุกคน

----------------------------------------------------------

อีกครั้งหนึ่งที่ภาคอีสานเมื่อเสด็จขึ้นไปทรงเยี่ยมบนบ้านของราษฎรผู้หนึ่ง

ที่คณะผู้ตามเสด็จทั้งหลายออกแปลกใจในการกราบบังคมทูล

ที่คล่องแคล่วและใช้ราชาศัพท์ได้อย่างน่าฉงน

เมื่อในหลวงมีพระราชปฏิสันถารถึงการใช้ราชาศัพท์ได้ดีนี้

จึงมีคำกราบทูลว่า "ข้าพระพุทธเจ้าเป็นโต้โผลิเกเก่า

บัดนี้มีอายุมากจึงเลิกรามาทำนาทำสวนพระพุทธเจ้าข้า.."

มาถึงตอนสำคัญที่ทรงพบนกในกรงที่เลี้ยงไว้ที่ชานเรือน

ก็ทรงตรัสถามว่า เป็นนกอะไรและมีกี่ตัว..

พ่อลิเกเก่ากราบบังคมทูลว่า

"มีทั้งหมดสามตัว พระมเหสีมันบินหนีไป

ทิ้งพระโอรสไว้สองตัว ตัวหนึ่งที่ยังเล็ก ตรัสอ้อแอ้อยู่เลย

และทิ้งให้พระบิดาเลี้ยงดูแต่ผู้เดียว"

เรื่องนี้ ดร.สุเมธ

เล่าว่าเป็นที่ต้องสะกดกลั้นหัวเราะกันทั้งคณะไม่ยกเว้นแม้ในหลวง

----------------------------------------------------------

เมื่อครั้งท่านพระชนม์มายุ 72 พรรษา

มีการผลิตเหรียญที่ระลึกออกมาหลายรุ่น

เจ้าของกิจการนาฬิกายี่ห้อหนึ่งได้ยื่นเรื่องขออนุญาต

นำพระบรมฉายาลักษณ์ของท่านมาประดับที่หน้าปัดนาฬิกาเป็นรุ่นพิเศษ

ท่านทราบเรื่องแล้วตรัสกับเจ้าหน้าที่ว่า

"ไปบอกเค้านะเราไม่ใช่มิกกี้เมาส์"

---------------------------------------

เรื่องการใช้ราชาศัพท์กับในหลวง

ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ใครต่อใครเกร็งกันทั้งแผ่นดิน

และไม่เว้นแม้กระทั่งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่ได้เข้าเฝ้า

ทูลละอองธุลีพระบาทถวายรายงาน

ครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีข้าราชการระดับสูงผู้หนึ่งกราบบังคมทูลรายงาน

ว่า "ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้าพลตรีภูมิพลอดุลยเดช

ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต

กราบบังคมทูลรายงาน ฯลฯ"

เมื่อสิ้นคำกราบบังคมทูลชื่อในหลวงทรงแย้มพระสรวล

อย่างมีพระอารมณ์ดีและไม่ถือสาว่า

"เออ ดี เราชื่อเดียวกัน..."

ข่าวว่าวันนั้นผู้เข้าเฝ้าต้องซ่อนหัวเราะขำขันกันทั้งศาลาดุสิดาลัย

เพราะผู้รายงานตื่นเต้นจนจำชื่อตนเองไม่ได้

---------------------------------------

มีอยู่ครั้งหนึ่งทรงเสด็จไปพระราชทานปริญญาบัตร

ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ในระหว่างที่ทรงเปลี่ยนในครุย ทรงโปรดสูบมวนพระโอสถ

แต่ว่าทรงหาที่จุดไม่ได้

ทางอธิการบดีซึ่งเฝ้าอยู่ก็จุดไฟให้พร้อมทูลว่า

"ถวายพระเพลิงพระเจ้าข้า"

ในหลวงทรงชะงัก ก่อนจะแย้มสรวลน้อยๆ กับอธิการบดีว่า

"เรายังไม่ตายถวายพระเพลิงไม่ได้หรอก"

---------------------------------------

เคยมีเรื่องเล่าให้ฟังว่า

ในหลวงเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารเเพื่อเยี่ยมเยียนราษฎร

มีอยู่ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านทรงแจกพระเครื่องให้กับราษฎรจนหมดแล้ว

แต่ราษฎรผู้หนึ่งกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานพระเครื่องว่า

"ขอเดชะ ขอพระหนึ่งองค์"

ในหลวงทรงตรัสว่า "ขอเดชะ พระหมดแล้ว"

---------------------------------------

วันหนึ่งพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมเยียนพสกนิกรของท่านตามปกติที่ต่างจังหวัด

ก็มีชาวบ้านมาต้อนรับในหลวงมากมาย

พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำเนินมาตามลาดพระบาท

ที่แถวหน้าก็มีหญิงชราแก่คนหนึ่งได้ก้มลงกราบแทบพระบาท

แล้วก็เอามือของแกมาจับ พระหัตถ์ของในหลวง

แล้วก็พูดว่า ยายดีใจเหลือเกินที่ได้เจอในหลวง

แล้วก็พูดว่า ยายอย่างโน้น ยายอย่างนี้

อีกตั้งมากมายแต่ในหลวงก็ทรงเฉยๆ

มิได้ตรัสรับสั่งตอบว่ากระไร

แต่พวกข้าราชบริภารก็มองหน้ากันใหญ่

กลัวว่าพระองค์จะทรงพอพระราชหฤหัย หรือไม่

แต่พอพวกเราได้ยินพระองค์รับสั่งตอบว่ากับหญิงชราคนนั้น

ทำให้เราถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่ไหว เพราะพระองค์ทรงตรัสว่า

"เรียกว่ายายได้อย่างไร อายุอ่อนกว่าแม่ฉันตั้งเยอะ

ต้องเรียกน้าซิถึงจะถูก"

--------------------------------------------------

ครั้งหนึ่งหลายๆ ปีมาแล้ว

พระเจ้าอยู่หัวทรงประชวรนิดหน่อยเกี่ยวกับพระฉวีมีพระอาการคัน

มีหมอโรคผิวหนังคณะหนึ่งไปเข้าเฝ้าฯ เพื่อถวายการรักษา

คุณหมอเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโรคผิวหนังแต่ไม่ได้เชี่ยวชาญทางราชาศัพท์

ก็กราบบังคมทูลว่า "เอ้อ - ทรง...

อ้า-ทรงพระคันมานานแล้วหรือยังพะยะค่ะ"

พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า

"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนี่จะท้องได้ยังไง"

แล้วคงจะทรงพระกรุณาว่า

หมอคงจะไม่รู้ราชาศัพท์ทางด้านอวัยวะร่างกายจริงๆ

ก็พระราชทานพระบรมราชานุญาตว่า เอ้าพูดภาษาอังกฤษกันเถอะ

เป็นอันว่าก็กราบบังคมทูลซักพระอาการกันเป็นภาษาอังกฤษไป

---------------------------------------

เช้าวันหนึ่ง เวลาประมาณ 7 โมงเช้า

นางสนองพระโอษฐ์ ของฟ้าหญิงองค์เล็ก

ได้รับโทรศัพท์เป็นเสียงผู้ชาย ขอพูดสายกับฟ้าหญิง

ทางนางสนองพระโอษฐ์ ก็สอบถามว่าใครจะพูดสายด้วย

ก็มีเสียงตอบกลับมาว่า คนที่แบงค์

นางสนองพระโอฐก็ งง...งง

ว่าคนที่แบงค์ทำไมโทรมาแต่เช้า แบงค์ก็ยังไม่เปิดนี่หว่า

แต่ พอฟ้าหญิงรับโทรศัพท์แล้วถึงได้รู้ว่า คนที่แบงค์น่ะ

ก็ที่แบงค์จริงๆนะ ไม่เชื่อเปิดกระเป๋าตังค์

แล้วหยิบแบงค์มาดูสิ ... ขนลุกเลย

---------------------------------------

เรื่องนี้รุ่นพี่ที่จุฬาฯเล่าให้ฟังว่า

มีอยู่ปีนึงที่ในหลวงทรงเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร

อธิการบดีอ่านรายชื่อบัณฑิตแล้วบังเอิญว่า

มีเหตุขัดข้องบางประการ ทำให้อ่านขาดตอน

ก็ต้องรีบหาว่าอ่านรายชื่อไปถึงไหนแล้ว

ปรากฏว่าในหลวงท่านทรงจำได้ ท่านเลยตรัสกับอธิการไปว่า

"เมื่อกี้นี้ (ชื่อ....) เค้ารับไปแล้ว"

และมีอีกปีนึงขณะที่พระราชทานปริญญาบัตรอยู่ดีๆ

ไฟดับไปชั่วขณะ...

ทำให้บัณฑิตคนหนึ่งพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการถ่ายรูป

พอในหลวงทรงพระราชทานปริญญาบัตรเรียบร้อยแล้ว

ก่อนที่จะให้พระบรมราโชวาท

ท่านทรงให้อธิการบดีเรียกบัณฑิตคนนั้นมารับพระราชทานอีกครั้ง

เพื่อจะได้มีรูปไว้เป็นที่ระลึก

ตื้นตันกันถ้วนทั่วทั้งหอประชุม



อ่านแล้วมีแอบยิ้มกันบ้างหรือเปล่าจ๊ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 21, 2006 5:56 pm
โดย katai_123
ได้อ่านแล้วก็ยิ้มไปด้วยค่ะ.................

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 21, 2006 6:10 pm
โดย อ้อย จ้า
ยิ้มสิจ๊ะยิ่งอ่านไปถึงตอนถวายพระเพลิงพระเจ้าค่ะ....ยิ่งยิ้มใหญ่เลย....

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มิ.ย. 22, 2006 10:16 am
โดย มาราตี
อ่านเเล้ว ก็นั่งหัวเราะ อยู่คนเดียว....ขอบคุณคะ่ สำหรับข้อความดีๆเเบบนี้

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 24, 2006 2:13 pm
โดย แน๊ตตี้
อ่านไป นั่งยิ้มไป และรู้ปลื้มใจ มากขึ้น มากขึ้น
ที่มีพระองค์เป็น พ่อหลวงของพวกเรา ขอจงทรงพระเจริญ

โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 24, 2006 5:27 pm
โดย ซาร่า
นั่งอมยิ้มสลับหัวเราะ น่ารักค่ะ อ่านไม่เบื่อ ขอบคุณนะคะ

โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 25, 2006 5:00 am
โดย แมวเหมียว
อ่านไปยิ้มไปค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 27, 2006 4:35 pm
โดย ไอติม
อ่านแล้วยิ้มไม่หุบ อดที่จะส่งต่อให้เพื่อนไม่ไหว EM134

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 27, 2006 7:08 pm
โดย momo
<span style='color:green'><span style='font-size:14pt;line-height:100%'> นั่งอมยิ้มไปขำไป อ่านไปยิ่งทำให้รักในหลวงมากขึ้นไปอีก</span></span>

<span style='color:blue'>อ้อ/หญ้าไทยในสวิส</span>

โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร มิ.ย. 27, 2006 8:00 pm
โดย kio
ในหลวงท่านทรงมีอารมณ์ขันมากเลยค่ะ อ่านแล้วยิ้มไม่หุบเลยค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 28, 2006 6:43 am
โดย คุณนาย
วันนี้ได้ขำแต่เช้าเลยค่ะ ขำทุกๆตอน แต่หัวเราะดังออกดังมากคือตอน ทรงพระคัน กับ คนที่แบงค์ พี่ไม่เคยทราบมาก่อนเลยนะว่า พระองค์ท่าน มีอารมณ์ขัน แบบคนอย่างเราเราคิดไม่ถึงเนอะ หึหึหึๆๆๆๆๆ ขอบคุณค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 28, 2006 7:05 am
โดย ansan
ยิ่งอ่านก็ทำให้ยิ่งรักในหลวงของเรามากยิ่งขึ้นเลยค่ะ
ขอพระองค์ทรงเป็นที่รัก และที่พักพิงจิตใจของประชาชน
ตราบนานเท่านานค่ะ

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 28, 2006 8:23 am
โดย ร้านหนังสือนกน้อย
,,,,ในหลวง,,,,

,,,,พ่อหลวงของคนไทยเราจริงๆ,,

EM330 ,,,ภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทยค่ะ ,,,, EM330

โพสต์โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 04, 2007 1:01 pm
โดย Ori
การ์ตูนขายหัวเราะชิดซ้ายเลยค่ะ นั่งหัวเราะอยู่คนเดียว

<span style='font-size:21pt;line-height:100%'><span style='color:blue'>รักในหลวง</span></span>

โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 05, 2007 1:08 pm
โดย toontang
อ่านไปขำไป ตลกดีค่ะ ขอใ้ห้พ่อหลวงจงทรงพระเจริญ