โพสต์แล้ว: อังคาร ก.ค. 14, 2009 10:53 pm
(ข้อความอ้างอิงจากไทยรัฐ) ขออนุญาตเอามาแบ่งปันกันที่นี่ด้วยครับ
บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ1รั้วจุฬาฯ ที่แม้จะทรงมีภารกิจมากมาย แต่ก็ไม่เคยทิ้งการเรียน เพราะรู้ว่าการศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับวัยของท่านหญิง สมกับเป็นแบบอย่างอันดีงามของเยาวชนไทย เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ หอประชุมจุฬาฯ ช่วงบ่ายวันพฤหัสฯที่ผ่านมา โดยทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากผลการเรียนเกรดเฉลี่ยถึง 3.93 และยังทรงได้รับรางวัลนิสิตดีเด่นประจำปีการศึกษา 2551 เนื่องจากทรงมีผลการเรียนดีเด่นด้วย
ยิ่งน่าชื่นใจขึ้นไปอีก เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมแสดงความยินดีกับพระธิดาอย่างอบอุ่น พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในฐานะทูลกระหม่อมพ่อที่ทรงรักและเมตตาพระธิดาเป็นที่สุด สมเด็จพระบรมฯทรงแสดงถึงความรักที่มีต่อพระธิดาต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยทรงดึงพระองค์หญิงเข้ามากอดและหอมหลายครั้งหลายครา พร้อมกันนี้ ยังพระราชทานช่อดอกไม้ และตุ๊กตาสุนัขในชุดครุยเป็นของขวัญสำหรับ บัณฑิตใหม่แห่งรั้วจุฬาฯ นอกจากนี้ ยังรับสั่งชมพระธิดาที่ทรงตั้งพระทัยเรียนหนังสือจนสามารถคว้าเกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง ทั้งๆที่ทรงงานหนักในการออกแบบแฟชั่น ด้านพระองค์หญิงก็ทรงปลาบปลื้มพระทัยมาก จนเรียกได้ว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ต้องจดจารึกไว้ในความทรงจำ เพราะเป็นวันที่มีแต่รอยยิ้ม ความสุข ความอบอุ่น และมิตรภาพ
พระองค์หญิงทรงเผยถึงความรู้สึกว่า "รู้สึกภูมิใจที่เรียนจบ โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับการเรียนหนังสือเป็นหลัก เพราะทราบดีว่า การศึกษาคือสิ่งสำคัญที่สุดในวัยของท่านหญิง แม้จะมีภารกิจอื่นๆที่ต้องทำเยอะแยะ เช่น งานออกแบบแฟชั่น การแข่งขัน และฝึกซ้อมแบดมินตัน แต่ท่านหญิง จะพยายามบริหารเวลาให้ลงตัว เพื่อทำงานทุกอย่างให้ลุล่วงตามเป้าหมาย แล้วก็มีกรณีพิเศษที่สำคัญมาก อย่างหมายหลวง ท่านหญิงต้องลาเรียนไปประกอบพระราชพิธีต่างๆบ้างตามวาระและโอกาส การที่ท่านหญิงมีภารกิจมากไม่ได้ทำให้ใส่ใจการเรียนน้อยลงเลย ตรงกันข้าม กลับทำให้ต้องตั้งใจเรียนมากขึ้น เข้าชั้นเรียนให้ครบและตรงเวลา หากขาดเรียนก็ต้องขยันมากขึ้น พยายามศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ถ้าใครถามว่า เทคนิคการเรียนของท่านหญิงคืออะไร คำตอบก็คือ ความตั้งใจ มุมานะ ความมีวินัย และการจัดสรรเวลาให้เป็น...แน่นอนว่าการที่ต้องเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ร่างกายต้องมีเหนื่อยล้าบ้าง แต่ท่านหญิงไม่เคยท้อถอย หรือคิดว่าเป็นอุปสรรค เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ลงมือทำคือสิ่งที่รัก และตัดสินใจทำด้วยตัวเอง...การที่ท่านหญิงได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง ก็เป็นผลสำเร็จของความตั้งใจ และความพยายามตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน"
แม้พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ จะเพิ่งรับปริญญาบัตรมาหมาดๆ แต่ก็ทรงมีพระกรณียกิจอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า โดยทรงเล่าว่า "ในขณะนี้ ท่านหญิงได้เริ่มงานสอนหนังสือ ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอาจารย์พิเศษ โดยสอนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตะวันตก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะได้ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้นิสิตรุ่นหลัง ถึงจะมีหน้าที่การงานใหม่เข้ามา แต่ท่านหญิงก็ยังคงทำงานออกแบบแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง อีกไม่นานคงจะได้เห็นผลงานการออกแบบใหม่ "ครุยซ์ คอลเลกชั่น 2009" และ "พรี คอลเลกชั่น 2010" ครั้งแรกของแบรนด์ SIRIVANNAVARI"
เมื่อทูลถามถึงทูลกระหม่อมพ่อว่า ทรงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทรงงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ รับสั่งตอบว่า "ทูลกระหม่อมพ่อทรงมีรับสั่งกับท่านหญิงเสมอว่า ต้องให้ความสำคัญกับประสบการณ์และการเรียนรู้ ดังนั้น หลังจากทำงานทุกอย่างที่เล่าไว้เสร็จสิ้นแล้ว ท่านหญิงจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมงานและเพิ่มเติมประสบการณ์ การออกแบบเสื้อผ้ากับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก เช่นจิออร์จิโอ อามานี ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ช่วงเดือน ก.ย.–พ.ย.นี้ จากนั้นจะไปร่วมงานกับห้องเสื้อชื่อดังระดับโลก ที่กรุงปารีส โดยท่านหญิงจะศึกษาต่อด้านศิลปะและแฟชั่นที่กรุงปารีสด้วย ขณะนี้อยู่ ระหว่างการเตรียมตัว กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสและศิลปะแขนงต่างๆเพิ่มเติม".
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ชมภาพพระฉายาลักษณ์ได้ที่ <a href='http://www.thairath.co.th/content/life/18562' target='_blank'>http://www.thairath.co.th/content/life/18562</a>
บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับ1รั้วจุฬาฯ ที่แม้จะทรงมีภารกิจมากมาย แต่ก็ไม่เคยทิ้งการเรียน เพราะรู้ว่าการศึกษาคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับวัยของท่านหญิง สมกับเป็นแบบอย่างอันดีงามของเยาวชนไทย เมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ หอประชุมจุฬาฯ ช่วงบ่ายวันพฤหัสฯที่ผ่านมา โดยทรงสำเร็จการศึกษาปริญญาศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต ภาควิชานฤมิตศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง จากผลการเรียนเกรดเฉลี่ยถึง 3.93 และยังทรงได้รับรางวัลนิสิตดีเด่นประจำปีการศึกษา 2551 เนื่องจากทรงมีผลการเรียนดีเด่นด้วย
ยิ่งน่าชื่นใจขึ้นไปอีก เมื่อสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงร่วมแสดงความยินดีกับพระธิดาอย่างอบอุ่น พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้า หลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ ในฐานะทูลกระหม่อมพ่อที่ทรงรักและเมตตาพระธิดาเป็นที่สุด สมเด็จพระบรมฯทรงแสดงถึงความรักที่มีต่อพระธิดาต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรก โดยทรงดึงพระองค์หญิงเข้ามากอดและหอมหลายครั้งหลายครา พร้อมกันนี้ ยังพระราชทานช่อดอกไม้ และตุ๊กตาสุนัขในชุดครุยเป็นของขวัญสำหรับ บัณฑิตใหม่แห่งรั้วจุฬาฯ นอกจากนี้ ยังรับสั่งชมพระธิดาที่ทรงตั้งพระทัยเรียนหนังสือจนสามารถคว้าเกียรตินิยม อันดับ 1 เหรียญทอง ทั้งๆที่ทรงงานหนักในการออกแบบแฟชั่น ด้านพระองค์หญิงก็ทรงปลาบปลื้มพระทัยมาก จนเรียกได้ว่า วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ต้องจดจารึกไว้ในความทรงจำ เพราะเป็นวันที่มีแต่รอยยิ้ม ความสุข ความอบอุ่น และมิตรภาพ
พระองค์หญิงทรงเผยถึงความรู้สึกว่า "รู้สึกภูมิใจที่เรียนจบ โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้ทุ่มเทแรงกายและแรงใจให้กับการเรียนหนังสือเป็นหลัก เพราะทราบดีว่า การศึกษาคือสิ่งสำคัญที่สุดในวัยของท่านหญิง แม้จะมีภารกิจอื่นๆที่ต้องทำเยอะแยะ เช่น งานออกแบบแฟชั่น การแข่งขัน และฝึกซ้อมแบดมินตัน แต่ท่านหญิง จะพยายามบริหารเวลาให้ลงตัว เพื่อทำงานทุกอย่างให้ลุล่วงตามเป้าหมาย แล้วก็มีกรณีพิเศษที่สำคัญมาก อย่างหมายหลวง ท่านหญิงต้องลาเรียนไปประกอบพระราชพิธีต่างๆบ้างตามวาระและโอกาส การที่ท่านหญิงมีภารกิจมากไม่ได้ทำให้ใส่ใจการเรียนน้อยลงเลย ตรงกันข้าม กลับทำให้ต้องตั้งใจเรียนมากขึ้น เข้าชั้นเรียนให้ครบและตรงเวลา หากขาดเรียนก็ต้องขยันมากขึ้น พยายามศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ถ้าใครถามว่า เทคนิคการเรียนของท่านหญิงคืออะไร คำตอบก็คือ ความตั้งใจ มุมานะ ความมีวินัย และการจัดสรรเวลาให้เป็น...แน่นอนว่าการที่ต้องเรียนและทำงานไปพร้อมๆกัน ร่างกายต้องมีเหนื่อยล้าบ้าง แต่ท่านหญิงไม่เคยท้อถอย หรือคิดว่าเป็นอุปสรรค เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ลงมือทำคือสิ่งที่รัก และตัดสินใจทำด้วยตัวเอง...การที่ท่านหญิงได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง ก็เป็นผลสำเร็จของความตั้งใจ และความพยายามตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องขอบคุณอาจารย์ทุกท่าน"
แม้พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ จะเพิ่งรับปริญญาบัตรมาหมาดๆ แต่ก็ทรงมีพระกรณียกิจอีกมากมายรออยู่ข้างหน้า โดยทรงเล่าว่า "ในขณะนี้ ท่านหญิงได้เริ่มงานสอนหนังสือ ที่คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาฯ เป็นอาจารย์พิเศษ โดยสอนวิชาประวัติศาสตร์ศิลป์ตะวันตก ซึ่งถือเป็นโอกาสที่จะได้ ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้นิสิตรุ่นหลัง ถึงจะมีหน้าที่การงานใหม่เข้ามา แต่ท่านหญิงก็ยังคงทำงานออกแบบแฟชั่นอย่างต่อเนื่อง อีกไม่นานคงจะได้เห็นผลงานการออกแบบใหม่ "ครุยซ์ คอลเลกชั่น 2009" และ "พรี คอลเลกชั่น 2010" ครั้งแรกของแบรนด์ SIRIVANNAVARI"
เมื่อทูลถามถึงทูลกระหม่อมพ่อว่า ทรงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทรงงานในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ รับสั่งตอบว่า "ทูลกระหม่อมพ่อทรงมีรับสั่งกับท่านหญิงเสมอว่า ต้องให้ความสำคัญกับประสบการณ์และการเรียนรู้ ดังนั้น หลังจากทำงานทุกอย่างที่เล่าไว้เสร็จสิ้นแล้ว ท่านหญิงจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อร่วมงานและเพิ่มเติมประสบการณ์ การออกแบบเสื้อผ้ากับแบรนด์แฟชั่นระดับโลก เช่นจิออร์จิโอ อามานี ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ช่วงเดือน ก.ย.–พ.ย.นี้ จากนั้นจะไปร่วมงานกับห้องเสื้อชื่อดังระดับโลก ที่กรุงปารีส โดยท่านหญิงจะศึกษาต่อด้านศิลปะและแฟชั่นที่กรุงปารีสด้วย ขณะนี้อยู่ ระหว่างการเตรียมตัว กำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสและศิลปะแขนงต่างๆเพิ่มเติม".
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ชมภาพพระฉายาลักษณ์ได้ที่ <a href='http://www.thairath.co.th/content/life/18562' target='_blank'>http://www.thairath.co.th/content/life/18562</a>