ครัวไกลบ้าน

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>
สัปดาห์แห่งการอุ้มน้อง โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ
จากหนังสือ พลอยแกมเพชร

ตั้งแต่เกิดมา แม่ไม่เคยต้องซื้อตุ๊กตาเด็กผู้หญิงสวยๆ ที่มีผมทองหยิกสลวย
นัยน์ตากลมโตสีฟ้าแจ๋ว...อย่างที่แม่คนอื่นเขาชอบซื้อ ให้เด็กแม้วเล่นเลย
เพราะว่าเด็กแม้วไม่สนใจที่จะเล่นตุ๊กตา ไม่ว่าจะเป็นแหม่มหน้าตาน่ารัก
หรือตุ๊กตาเด็กน้อยแขกดำแสนจะน่าเอ็นดู หรือแม้แต่พวกตุ๊กตาเบบี้ต่างๆ
แต่จะชอบเล่นพวกเกมหรือจิ๊กซอว์พัสเซิล...ไม่ก็พวกสัตว์ตัวนุ่ม ๆน่ารัก
ซึ่งเป็นตุ๊กตาชนิดเดียวที่เด็กแม้วชอบเอาไว้กอดนอน

แต่วันนี้ เริ่มตั้งแต่หกโมงเช้าจนกระทั่งถึงเย็นวันอังคารเป็นเวลาสี่สิบแปดชั่วโมง เต็ม เด็กแม้วและเพื่อนร่วมชั้นที่ีโรงเรียนจะต้องอุ้มตุ๊กตา ไม่ว่าจะเป็นถุงแป้งสาลี หรือกระสอบข้าว ที่มาสมมุติเป็น 'เบบี้' ของเด็กแต่ละคนอย่างที่บอก


แล้ว เบบี้เหล่านี้จะเป็นตุ๊กตาจริงๆ หรือจะทำด้วยถุงแป้ง หรือถุงข้าวก็ได้แต่เบบี้ ของนักเรียนแต่ละคนจะต้องมีน้ำหนักอย่างน้อย 3 ปอนด์ หรือ 2.3 กิโลกรัม

แล้วเด็กแม้วกับเพื่อนๆในชั้น ป.7 ก็มีหน้าที่ ดูแลตุ๊กตา ซึ่งสมมุติว่าเป็นลูกของเด็ก ๆ โดยจะต้องคอยอุ้ม คอยเลี้ยงถนอมกล่อมเกลี้ยงให้ดี ไม่ให้ถุงแป้งหรือตุ๊กตาของแต่ละคนนั้นแตกหักบุบสลาย ถุงฉีกขาดจนแป้งหรือข้างหกเลอะเทอะออกมาได้</span>

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>คือเขาจะฝึกให้เด็กๆรู้จักรับผิดชอบดูแลทารก ให้รู้ว่าการมีลูก การเลี้ยงลูกนั้นไม่ใช่ของง่ายๆ เขาต้องการจะให้เด็กที่เริ่มจะเป็นวัยรุ่นขึ้นมาแล้วรู้จักระวังรักษาตัวดีๆไม่เผลอไปมีเพศสัมพันธุ์เร็วเกินไปจนเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมาอย่างไม่ร ู้เนื้อ รู้ตัว

เพราะว่าเรื่องอย่างนี้เป็นปัญหากันมากในระดับไฮสกูล ในหมู่เด็กสาวที่มีอายุแก่กว่าเด็กแม้ว 2-3 ปี ดังนั้น ครูที่โรงเรียนของเด็กแม้วจึงคิดตัดไฟแต่ต้นลม นักเรียนชั้นเด็กแม้ว คือเด็กระดับจูเนียร์ ไฮสกูล จะต้องเข้าเรียนวิชาที่เรียกว่า 'Life Education' หรือวิชา 'ชีวิตจริง' ซึ่งครูเขาจะสอนในเรื่องต่างๆ อธิบายถึงเหตุการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมปัจจุบัน เขาไม่ได้สอนเรื่องเพศศึกษาอย่างเดียว แต่จะสอนกว้างไปถึงปรากฏการณ์ที่เราเห็นได้บ่อย ๆ ในหมู่เด็กวัยรุ่น เช่น เรื่องเกี่ยวกับการติดยา การเข้าสังคม แม้แต่ประสบการณ์ในการหางานทำ เด็กแม้วเล่าว่า ครูเขาเชิญบุคคลที่ต้องเผชิญกับปัญหาชีวิตในแง่่มุมต่าง ๆ กัน มาคุยให้นักเรียนฟัง </span>

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>แต่ในวันนี้ เด็กแม้วและเพื่อนจะต้องเรียนรู้ถึงความรับผิดชอบในการมีเบบี้ของตัวเอง นอกจากเด็กๆ ไม่ว่าจะเด็กผู้หญิงหรือผู้ชายจะต้องคอยอุ้มดูแลลูกของตัวเองให้ดีแล้ว ถ้าเด็กจะต้องไปเล่นพละ ต้องไปวิ่ง แล้วไม่สามารถเลี้ยงลูกตัวเองได้ เด็กก็จะต้องหา'เบบี้ซิตเตอร์' หรือพี่เลี้ยงเด็กมาช่วยอุ้มเบบี้แทนตัวเขา ตอนที่เขาไม่ว่างด้วย

มิสเตอร์สไมลี่ ครูสอนวิชานี้บอกว่า "ถ้าครูเห็นใครโยนเบบี้เล่น จนเบบี้แตกพังตายไป ครูจะให้สอบตก ได้ดับเบิลเอฟ !"

แม่เห็นว่าเด็กแม้วนั้นไม่เคยมีประสบการณ์เล่นตุ๊กตุ่นตุ๊กตามาก่อนคงอุ้มเบบี้ได้ไม่่้ทนอาจทำตกหล่นไปบ้างจึงแนะนำให้เจ้าหล่อนใช้ถุงข้าว สารที่มีน้ำหนัก 5 ปอนด์เป็นเบบี้แทนที่จะใช้แป้งสาลีเช่นเดียวกับเพื่อนคนอื่นๆเขา แล้วแม่ก็คาดการณ์ได้ถูกต้อง
เพราะถึงแม้เด็กแม้วจะกอดเบบี้ของเจ้าหล่อนไว้แน่นก็จริง เจ้าหล่อนก็สะดุดอะไร ๆ เกือบจะทำเบบี้หล่นไปหลายหนเหมือนกัน แต่เบบี้ของเด็กแม้วยังอยู่ยงคงกระพันถึงแม้เจ้าหล่อน จะแอบโยนเบบี้เล่นที่บ้านจนเบบี้หล่นลงมาซะตั้งหลายหน เด็กแม้วสมมุติว่าเป็นเด็กผู้ชายชื่อ 'Rice' จึงมี ชีวิตอยู่ อย่างดีพร้อมที่จะไปโรงเรียนกับแม่คือเด็กแม้วอีกเป็นวันที่สาม..ในวันพุธนี้</span>

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>แต่ก็เกิดเหตุการณ์ผันแปรที่ทำให้ครูสไมลี่ ต้องหยุดเบบี้โปรเจ็คท์นี้ไปโดยกระทันหัน...อย่างถาวร แม่ของเด็กแม้ว มีอารมณ์ร่วมนึกสนุกไปกับโปรเจ็คท์นี้ด้วยเป็นอย่างมาก จึงรีบไปซื้อเสื้อทีเชิร์ต และผ้าห่มสำหรับเด็กทารกแรกเกิดมาให้เบบี้ไรซ์ของเด็กแม้วใส่ไปโรงเรียนเพราะบ้านเราไม่มีของเหล่านี้แล้วด้วยว่าน้อง ๆ ของเด็ก

แม้วก็โตกันหมดเราจึงได้บริจาคของเด็กที่ใช้กันมา...สามชั่วคนไปให้คนอื่นซะเกลี้ยง แม่คิดว่า เสื้อที่ซื้อมาคงจะได้ใช้อีกไม่เสียหลายเพราะซูเปอร์บอยและน้องใหม่ก็คงต้องทำโปร เจ็คท์อุ้มเบบี้เช่นกัน ซูเปอร์บอยนั้นเตรียมอุ้มเบบี้เต็มที่เพราะเด็กแม้วบอกว่าที่บ้านเวลาเด็กแม้วต้องซ้อมเปียโน...ประมาณร่วมสองชั่วโมงนั้นเด็กแม้วจะให้ซูเปอร์บอยช่วยซิตลูกหน่อยเพราะน้องใหม่เขาไม่รับ

อาสาช่วยดูแลให้ เพราะว่า "เบบี้ไม่ชอบน้องใหม่…"ไม่ทราบว่าน้องใหม่ทราบได้อย่างไรกันนี่ ?

บ่ายวันจันทร์ เมื่อแม่ไปรับเด็กแม้วจากโรงเรียน แม่ก็เห็นเด็กแม้วอุ้มเบบี้คอยอยู่แล้วแต่ท่าทางที่เด็กแม้วอุ้มเบบี้นั้นดูน่าขันมากเพราะเด็กแม้วหนีบเบบี้ไรซ์ไว้แน่นเหมือนกับถือหนังสือเรียนยังไงยังงั้น "ลูกแฝดของซาร่า ตายไปหนึ่งคนแล้ว" เด็กแม้วรายงาน ซาร่าเพื่อนของเด็กแม้วใช้ถุงเท้าใส่ไส้เป็นแป้งสาลีมาเย็บต่อกันเป็นเบบี้แฝด หญิงหนึ่ง ชายหนึ่ง "เบบี้ของซาร่าขาดแป้งรั่วออกมาเลอะหมดเลย" เด็กแม้วบอก สเตฟานี่เพี่อนสนิทอีกคนของเด็กแม้วใช้ตุ๊กตาCabbabg Patch ใส่ไส้แป้งสาลีเพื่อให้ตุ๊กตามีน้ำหนักห้าปอนด์ "แต่แป้งรั่วออกมาหมดเลย รั่วไปกองที่ถุงเท้า" แต่สเตฟานี่บอกว่าซ่อมตุ๊กตาตัวนี้ได้สำหรับอุ้มในวันต่อมา เด็กแม้วเล่าถึงเหตุการณ์ร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับเบบี้ของใครๆ เขามาตลอดทาง...จนถึงบ้าน </span>

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ครูหลายๆคนไม่ชอบใจที่เด็ก ๆ มัวแต่สนใจเล่นตุ๊กตาเหล่านี้จนไม่เป็นอันร่ำอันเรียน " ครูเลขคนหนึ่ง แกโกรธแอดัมเพราะเขาคอยอุ้มตุ๊กตาหมีแคร์แบร์ของเค้า...ครูเลยปาเบบี้ของแอดัมออกนอกหน้าต่าง " เด็กแม้วเล่าให้แม่ฟังต่อ " แล้วเบบี้ของแอดัมเป็นไงบ้างหละ ?"

" แอดัมหาเบบี้ไม่เจอ เลยไม่มีเบบี้แล้ว"

ส่วนครูประวัติศาสตร์ของเด็กแม้วก็คงไม่ชอบเบบี้เหล่านี้เท่าไหร่เพราะ เธอมีมุมพิเศษให้เด็กๆวางเหล่าเบบี้...สุมไว้เป็นกองใหญ่ เบบี้ที่ทำจากถุงแป้งสาลีหลายตัวแตกกระจายเลอะเทอะไปทั่วโรงเรียนก็ทำความโกรธแค้นให้แก่ภารโรงและครูอื่น ๆ มากพอสมควรเพราะเบบี้เหล่านี้ก่อให้เกิิดความวุ่นวายเล็ก ๆ เต็มไปหมด

แต่ท่ามกลางความวุ่นวายเหล่านี้้เบบี้ไรซ์ของเด็กแม้วยังมีชีวิตอยู่อย่างดีแม้ว่าจะต้อง อยู่ในความดูแลของตัวยุ่ง คือซุปเปอร์บอย...ตั้ง 2 ชั่วโมงในคืนวันจันทร์ระหว่างที่เด็กแม้วซ้อมเปียโน

" เลิกแล้ว" เด็กแม้วร้องบอกทันทีที่กลับมาถึงบ้านโดยการอุ้มถุงข้าวสารเปล่าๆ มาด้วยแม่จึงร้อง...อ้าว เด็กแม้วเธอถอดเสื้อถอดผ้าอ้อมและ ผ้าห่มเบบี้ออกหมดแล้วพร้อมทั้งหน้าหัวเราะหน้าร้องไห้ที่เจ้าหล่อนวาด แปะบนถุงข้าวสารหายไป...เรียบร้อยแล้ว

เหตุที่มิสเตอร์สไมลี่สั่งเลิกโปรเจ็คท์การอุ้มน้องอย่างกระทันหันนั้นก็เพราะว่าครูสไมลี่โดนเพื่อนครูทั้งโรงเรียนโกธรกันหมดเพราะนักเรียนของครูสไมลี่ โดยเฉพาะพวกผู้ชายพากันเล่นเบบี้โดยที่มิสเตอร์สไมลลี่มาคุมดูไม่ทัน...จนกระทั่งโรงเรียนจูเนียร์ไฮสกูลของ เด็กแม้วเลอะไปด้วยแป้งหมดแล้วเด็กแม้วเล่าว่า รองอาจารย์ใหญ่ ่
โกรธมากเป็นพิเศษเมื่อเห็นเบบี้ถุงแป้งถูกโยนหล่นตกเลอะกระจายจนเธอต้องสวมวิญญาณกังฟูเรียกเด็กมากรี๊ด !

และตอนเช้าวันอังคาร ก็มีเด็กผู้ชายคนนึงทำเบบี้ถุงแป้งสาลีหล่นแตกบนรถบัส ของโรงเรียนก่อให้เกิดทุกข์จากคนขับรถบัส.. .จนเกือบแย่แน่ะ ครูสไมลี่จึงเกือบโดนรุมประชาทันฑ์ ครูจึงบอกให้เด็ก ๆ เก็บเบบี้ซะ "อ้าว ! แล้วถ้าเราอยากได้คะแนนพิเศษหละค่ะครู ?" นักเรียนคนหนึ่งถาม
"ไม่ต้อง ๆ แล้ว อย่าเอาเบบี้มานะ พรุ่งนี้" มิสเตอร์สไมลี่...........</span>

เรื่องราวน่ารักจังเลยค่ะ น่าติดตาม

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>คุณพลอยไพลิน มหิดล เจนเซน เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2524 เป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 และเป็นพระธิดาพระองค์โตในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาสิริวัฒนาพรรณวดี

ชื่อของคุณพลอยไพลินมีสมเด็จพระเทพฯเป็นผู้ตั้งให้ โดย "พลอยไพลิน" เป็นเพชรสีน้ำเงิน ซึ่งแสดงถึงความสูงส่งของสายเลือดราชวงศ์ รวมถึงเป็นอัญมณีแห่งความรักอีกด้วย

ครั้งหนึ่งสมเด็จพระเทพฯทรงตรัสถึงคุณพลอยว่าเป็น "อัจฉริยะ" ทำให้คุณพลอยได้รับการดูแลเรื่องการศึกษาอย่างดีทั้งจากทูลกระหม่อมและสมเด็จพระเทพฯ คุณพลอยจบการศึกษาระดับมัธยมจาก Purcell School ประเทศอังกฤษ จากนั้นศึกษาต่อที่ The London School of Economics และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ University of California, San Diago โดยได้รับเกียรตินิยมและเป็นนักศึกษาดีเด่นของมหาวิทยาลัยที่ทำคะแนนได้สูงสุดของคณะและด้วยความสามารถที่โดดเด่นทำให้ได้เข้าฝึกงานในสถาบันสำคัญระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ World Bank และ Goldman Sachs ก่อนที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ Sloan School, Massachusetts Institute of Technology (MIT) ขณะนี้ทำงานที่ McKinsey & Company, Hongkong

ระหว่างศึกษาที่ MIT ถึงแม้ว่าคุณพลอยจะเกิดและเติบโตที่อเมริกา แต่ท่านแนะนำตัวกับเพื่อนๆว่าท่านเป็นคนไทย ระหว่างศึกษาท่านได้เน้นเรื่องเศรษฐกิจของเอเชียเป็นพิเศษ ท่านถือว่าอายุน้อยมากเมื่อเทียบกับอายุเฉลี่ยของนักศึกษาทั้งหมดคือ 28 ปี แต่ท่านมีอายุเพียง 24 ปีขณะเข้าศึกษา

คุณพลอยไพลินได้ศึกษาในหลายๆเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศเป็นอย่างมาก รวมทั้งโครงการที่ท่านได้ทำการวิจัยขณะฝึกงานที่ธนาคารโลก ซึ่งท่านให้สัมภาษณ์ในนิตยสารแพรวว่าอยากศึกษาเพื่อนำมาใช้พัฒนาประเทศไทย และได้รับคำชมจากพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอีกด้วย

ในนิตยสารของทางมหาวิทยาลัย คุณพลอยไพลินให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับอนาคตทางหน้าที่การงานของท่านว่า ในระยะสั้นๆท่านยังไม่แน่ใจว่าอยากจะทำอะไร แต่สนใจงานด้าน business consultant เนื่องจากจะเป็นการสะสมประสบการณ์ที่หลากหลายทางด้านเศรษฐกิจ แต่ในระยะยาวท่านทราบดีว่าท่านจะทำงานด้านการกุศลและสังคมสงเคราะห์ต่างๆ รวมถึงงานด้านพัฒนาประเทศด้วย ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าประเทศที่ท่านกล่าวถึงจะต้องเป็นประเทศไทยอย่างแน่นอน และเป็นที่แน่นอนว่าในอนาคตอันไม่ใกล้ไม่ไกล ประชาชนชาวไทยจะมีอีกหนึ่งเชื้อสายราชวงศ์จักรีที่มากด้วยความสามารถมาช่วยพัฒนาประเทศอย่างแน่นอน ในอดีตเราเห็นพระธิดาพระองค์หนึ่งเสด็จตามในหลวงไปทุกที่แม้ในถิ่นทุรกันดาร แต่ปัจจุบันเราเห็นราชนัดดาองค์หนึ่งตามเสด็จพระธิดาองค์นั้นไปในหลายที่ตั้งแต่ท่านยังเด็กจนโต</span>

<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>สมเด็จพระเทพฯ เสด็จงานคุณพลอยรับปริญญา MIT</span>
webmaster <a href='http://paploy.com/forums' target='_blank'>http://paploy.com/forums</a>

ขอบคุณที่นำข้อมูลมาเผื่อแผ่ ค่ะ หนูหมั่นโถชอบมากๆ

ขอบคุณค่ะ