เจอกระทู้นี้ในเว็บหนึ่งแล้วชอบค่ะ ขออนุญาตก็อบมาให้เพื่อนๆอ่านนะคะ
<span style='font-size:14pt;line-height:100%'>ข้าว ที่จ่อหัวเรื่องไว้ข้างบนนั้น แน่นอนทุกคนรู้จัก แต่จะมีใครซักคนในที่นี้ รู้วิธีผลิตข้าวบ้าง แต่ที่ทุกคนก็จะคิดว่าถ้าคิดถึงข้าวก็จะคิดถึง เม็ดแป้งเม็ดเล็กๆที่มีความสำคัญมากกับคนไทยเรา และนึกถึงข้าวก็จะคิดถึงชาวนา ที่ผลิตข้าว ((อยากจะให้ทุกคนอ่านกระทู้นี้ให้จบ อาจจะยาวหน่อยนะครับ))
ผมเป็นลูกชาวนาคนหนึ่ง ที่มีพ่อแม่ปู่ย่าตายายเป็นชาวนา ก็จะรู้ว่าการผลิตข้าวนั้นมันยาก และมีขั้นตอนมากมาย และถ้าจะถามอีกว่าชาวนาเคยรวยจากการทำนาหรือเปล่า 90%(หรือมากกว่านั้น) ก็ยังจนอยู่ ไม่แปลกที่ชาวนาปลูกข้าวยังจนอยู่ เพราะอาจจะเนื่องมาจาก
1.ฝนฟ้าอากาศ 2.ราคาน้ำมัน 3.ไม่มีที่ดินเพียงพอ 4.มีมากเกินไป เลยขายไม่ได้ราคา
และอีกมากมายหลายอย่างที่เป็นตัวแปล ที่ทำให้ชาวนายังจนอยู่ รวมไปถึงรัฐบาลไม่เคยไปดูดำดูดีกับเกษตรกร ผู้เป็นรากฐานของการเป็นอยู่เลย จนทำให้พวกพ่อค้าคนกลาง กดขี่ราคาข้าวจนเลือดออกซิบๆ
ถึงแม้ปัจจุบันการผลิตข้าวนั้น จะไม่ต้องลำบากลำบนเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป เพราะมีเครื่องจักรที่มาช่วยผ่อนแรงได้เยอะ แต่ก็นั่นละ เพราะค่าน้ำมัน ค่าแรง เพิ่มขึ้น ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น ก็ไม่ต่างจากการทำเหมือนแต่ก่อนมากนัก เดี๋ยวนี้พวกแมลงอะไรต่างๆก็มีมาก คุณภาพของดิน น้ำ หลายอย่างมาก หลายอย่างที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ก็คงจะพอเดาออกว่าอนาคตของชาวนาไทยจะเป็นอย่างไร เดาว่าอีก20ปีข้างหน้า ชาวนา(รุ่นเก่า) ก็คงจะล้มหายตายจากไป ลูกหลานที่มีก็คงจะไม่มีใครคิดที่จะทำนากันแล้ว
และแน่นอน การส่งออกที่เราได้เป็นผู้นำการส่งออกข้าวรายใหญ่ต้นๆของโลกเลย ก็งคงจะเป็นอดีตแน่นอน และก็แน่นอน ที่ราคาน้ำมันก็จะสูงขึ้น รวมถึงสินค้าต่างๆ จะเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะว่าประเทศเราไม่มีบ่อน้ำมัน เราต้องเอาเงินที่ขายข้าวไปซื้อน้ำมันมาไช้ แน่นอนคือการขาดดุล ฟังเหมือนกับว่าเป็นเรื่องไกลตัวนะ แต่ไม่เลย มันเป็นเรื่องไกล้ตัวมาก รัฐบาลกำลังจะทำให้เราเป็นประเทศอุตสาหกรรม ผมไม่เห็นด้วยหรอกครับ เพราะว่าปัญหามันจะตามมาไม่รู้จบ
แทนที่จะมาหันหน้าดู และส่งเสริมชาวนาและเกษตรกรให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น การทำนิคมอุตสาหกรรมต้องใช้พื้นที่มากมาย ทำโรงงาน ทำถนนทำสาธารณูประโภคมากมาย และมลภาวะต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตามมาอีก ท่านวางแผนดีหรือยัง เพราะถ้าไม่ดี ดิน น้ำ อากาศ โดยรอบจะเปลี่ยนไป ที่นี้จะหันมาทำเกษตรเหมือนเดิม ก็คงจะยาก ปํญหาข้างต้นที่ว่ามาเริ่มที่จะเกิดขึ้นแล้วครับ ที่บ้านผมเอง ชาวบ้านที่จังหวัดผม เค้าขายนาขายไร่ ที่ปู่ย่าตายายเค้าตกทอดมาไห้ เขาขายทิ้งแล้วไปทำกิจการอื่นกันเยอะแล้วครับ และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น เพราะปัญหาต่างๆที่กล่าวมา
ประเทศเราน่ะเล็ก ถ้าจะคิดไปสู้ทางด้านอุตสาหกรรมอย่างประเทศใหญ่ๆอย่างจีน ญี่ปุ่นล่ะก็ไม่มีทาง เพราะบุคคลากรของเขามีคุณภาพ และประเทศเขาใหญ่ ถ้าจะสู้ทางด้านเกษตรล่ะก็ พอจะวัดได้ เอาที่เราถนัดมาสู้กับเขาดีกว่า
////จะขออาจเอื้อม ยกเอาพระราชดำรัสขององค์ในหลวง\\\\
ที่พระองค์ท่านกล่าวกับคนรัฐบาลและคนไทยว่า เศรษฐกิจพอเพียง ในส่วนตัวผมนั้นมีความเข้าใจว่า พระองค์ท่าน สื่อให้เรารู้ตอนเราเป็นหนี้ และปัญหาค่าเงินบาทตอนนั้น คือให้เราอยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งไปดิ้นรนดันทุรัง ให้อยู่อย่างประคองตัว เราอาจจะถอยหลัง เพื่อที่จะเดินหน้า ก็คือว่าให้ประชาชนทั้งหลาย ทุกครอบครัวเลี้ยงตัวเองไปก่อน มีข้าวกิน มีที่อยู่ ตัดการนำเข้า ถ้ามีเหลือใช้ก็ส่งออกบ้าง และเราก็รอ รอจนกว่าเราจะสามารถจะฟื้นตัว และตอนนั้นเราก็จะกลับมาแข้งแกร่งเหมือนเดิม
ตอนนั้นจำได้ว่าครอบครับของผม ก็ประสบปัญหาเหมือนกัน พ่อผมนำเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระองค์ท่านให้มา นำมาคิดวางแผน และนำมาใช้ได้ผลดีมาก สามารถที่จะเลี้ยงครอบครัวอยู่ได้ และมีเงินที่จะไช้หนี้ธนาคารจนหมด เพราะตอนนั้นที่บ้านผมทำนาเยอะเหมือนกัน ขายก็ไม่ได้ราคา ปุ๋ยก็แพง ค่าแรงแพง น้ำท่วม ขาดทุนย่อยยับ เหลือเงินก้อนสุดท้าย วันที่5ธันวา 40หรือ41จำไม่ได้ครับเป็นวันพ่อ พ่อผมก็มาฟังที่ในหลวงจะต้องกล่าวอวยพรกับคนไทย พ่อมาเพื่อจะหวังได้เห็นในหลวง และได้พึ่งใบบุญของพระองค์ท่าน ผมเองก็มาด้วย
พ่อผมกับผมเป็นเกษตรกร มานั่งรอตั้งแต่บ่ายเลยครับ พอกล่าวเสร็จ พระองค์ท่านก็เดินมาทักทายประชาชนข้างนอก เชื่อไหม๊ครับว่าพระองค์ เข้ามาทักทายกลุ่มเกษตรกรที่นาล่ม ที่พ่อผมนั่งอยู่ข้างหน้าเลย พ่อผมรวมทั้งคนอื่นๆปลื้มมาก พ่อหลวงท่าน ก็คงจะเข้าใจหัวอกพวกเราชาวนาดี ท่านจึงยินคุยนานหน่อย พ่อผมยกมือท่วมหัวเลย สั่นเป็นเจ้าเข้าเลย ปากก็อยากจะพูดแต่พูดไม่ออก ท่านถามว่าร้อนไหม๊ ได้ฟังด้วยหรือเปล่า "ฟังครับๆ"พ่อผม และคนอื่นๆตอบ แค่นั้นแหละครับ มันเป็นเหมือนกำลังใจจากพ่อ พ่อที่เป็นพ่อของแผ่นดิน
กลับบ้านมาพ่อผมเปลี่ยนเลยครับ คือพ่อผมใช้เงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่ ใช้ที่นาส่วนหนึ่ง แบ่งมาทำบ่อเลี้ยงปลา จำนวน4 บ่อ รอบสระปลูกผัก ข้างบนสระ ทำเป็นห้างเลี้ยงเป็ด ไก่ ที่เหลือปลูกข้าวไว้กินเอง ตามเศรษฐกิจพอเพียงทุกอย่าง ที่ในหลวงบอก เก็บผักเก็บปลากิน มีเหลือมากหน่อยก็เอาไปขาย ไม่ฟุ้มเฟื้อยไปซื้อของแพงๆมาใช้ จนพ่อใช้หนี้ธนาคารจำนวนหลายแสนบาทหมดเกลี้ยง หนี้ที่กล่าวนี้ มาจากการทำนาล้วนๆ และไม่เคยผ่อนเงินต้นได้เลย ผ่อนได้แต่ดอกเบี้ย นี่แหละครับเศรษฐกิจพอเพียง
ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้น นอกจากจะระลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านแล้ว ก็ยังอยากที่จะเตือนสติน้องๆนักเรียน นักศึกษา ที่ไม่ค่อยเห็นค่าของข้าว และอื่นๆ ได้หันมามองบ้าง ปัจจุบันผมเปิดร้านขายอาหารอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ เห็นน้องๆนักเรียน กินข้าวกันเหลือครึ่งค่อนจานเยอะมาก บางคนกินแต่กับ ข้าวไม่แตะเลย ที่เหลือจะไห้ใครมากินก็ไม่ได้อีกนอกจากต้องทิ้งขยะ หรือดีสุดก็เทไห้หมากิน
คุณอาจจะแย้งว่า แล้วจะทำไม ฉันมีเงินที่จะซื้อ จะกิน จะทิ้งเท่าไหร่ก็ได้ ไม่เห็นจะต้องมาเดือดร้อนด้วย มีเงินซะอย่าง ก็ตอบว่า ก็ถูกของคุณครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันหมดหรือหายากขึ้นมาเราโดยรวม ก็คงจะเดือดร้อนกันไม่น้อย อยากให้คนไทยทุกคนประหยัด ซื้อประหยัดใช้ เพราะองค์ในหลวงก็ทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว
((อย่างที่เห็นในข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนที่พระองค์ท่าน นำรองเท้าไปซ่อม))
นั่นเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับคนไทยเลยครับ เพราะเราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร............. </span>