วิธีการดูแลรักษาเครื่องซักผ้าฝาหน้า

[NapatsakornSalingkarn]

ไม่ว่าจะเป็นบ้านไหนก็ต้องมี เครื่องซักผ้า เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำความสะอาดเสื้อผ้าของเรา แต่การดูแลรักษาเครื่องซักผ้านั้นก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าของเรามีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากขึ้น วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการดูแลเครื่องซักผ้าฝาหน้า

– ไม่ควรทิ้งผ้าที่ซักเสร็จแล้วไว้ในเครื่องเป็นเวลานานๆ เพราะว่าหลังจากที่ซักผ้าเสร็จแล้ว เราควรนำผ้าออกไปตากเลย ไม่อย่างงั้นเครื่องซักผ้าจะมีความชื้นอยู่ภายในจะมีโอกาสทำให้เกิดรา และเกิดกลิ่นอับชื้นได้ง่ายๆ

– เช็ดยางตรงขอบประตู ทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จ เพราะยางตรงขอบประตูถือว่าเป็นจุดอ่อนของเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้าเลย ยิ่งถ้าเราไม่ดูแลให้ดี มันอาจจะรั่วหรือขึ้นราได้ง่ายๆ เราจึงจำเป็นต้องเช็ดขอบยางให้แห้งทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จ

– ทำความสะอาด ช่องใส่ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะถ้าเราไม่เคยทำความสะอาดช่องใส่น้ำยาเลย อาจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ แทนที่เราจะได้น้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมๆ เราอาจจะได้กลิ่นอับชื้นมาแทน

– เปิดฝาหน้าเครื่องทิ้งไว้ทุกครั้งหลังการใช้งานเสร็จ เพราะว่าจะทำให้เครื่องซักผ้าไม่มีความชื้นสะสม ลดโอกาสเกิดราที่ยางขอบประตูได้อีกด้วย และยังเป็นการช่วยรักษาเครื่องซักผ้าของเราได้เป็นอย่างดี

http://www.lgblogger.com/attendance-was ... rettyPhoto

[NapatsakornSalingkarn]

ถ้าพูดถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญที่สุดภายในบ้านก็ต้องนึกถึง ตู้เย็น เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหาร, ผัก, ผลไม้, น้ำ เราก็ต้องนำมาแช่เย็น วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการดูแลตู้เย็นของเราให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

– ไม่ควรแช่ของในตู้เย็นมากจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น เพื่อที่จะให้อุณหภูมิความเย็นกลับมาเย็นตามเดิม และทำให้เปลืองไฟ

– ปรับอุณหภูมิความเย็นในตู้เย็นให้เหมาะสม เพราะส่วนใหญ่ตู้เย็นจะมีปุ่มสำหรับปรับอุณหภูมิอยู่ด้านในสุดของตู้เย็น ปกติแล้วเราควรตั้งให้อุณหภูมิอยู่ที่ 0 – 4 องศาเซลเซียส และถ้าเป็นช่องแช่แข็งเราจะปรับให้อุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส

– ทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพของขอบยางประตูตู้เย็นเป็นประจำ เพราะว่าตรงขอบยางประตูตู้เย็น มันจะมีโอกาสเสื่อมสภาพได้ถ้าเราใช้ไปนานๆ เราต้องคอยเช็คดูตลอดเพื่อหามาเปลี่ยน ส่วนการทำความสะอาดขอบยางประตูตู้เย็น เราสามารถใช้แปรงสีฟันขัดด้วยน้ำผสมเบคกิ้งโซดา หลังจากนั้นให้ทำการตรวจสอบประตูตู้เย็นปิดได้แน่นสนิทหรือไม่ โดยการนำกระดาษแผ่นเล็กๆสอดไว้ตรงประตู ให้มีส่วนของกระดาษยื่นออกมาจากตัวประตูแล้วลองปิดประตูตู้เย็นให้สนิท ถ้ากระดาษร่วงหล่นลงมาได้ง่ายๆ แสดงว่าประตูเริ่มหลวมและปิดไม่สนิท ซึ่งจะส่งผลให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาอุณหภูมิให้เย็น ทำให้เปลืองไฟเป็นอย่างมาก

– ทำความสะอาดแผงระบายความร้อน เพราะโดยทั่วไปแผงระบายความร้อนจะอยู่ที่ด้านหลังหรือด้านใต้ของตู้เย็น ซึ่งเป็นจุดที่เรามักลืมดูแลทำความสะอาด หากเราปล่อยให้มีฝุ่นจับแผงระบายความร้อนนี้มากๆ ก็จะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น ดังนั้นเราจึงทำความสะอาดแผงระบายความร้อนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง

– เปิดตู้เย็นเท่าที่จำเป็นและไม่เปิดประตูทิ้งไว้นานๆ เพราะว่าการเปิดตู้เย็นแต่ละครั้งจะทำให้อากาศภายนอกเข้าไปแทนที่อากาศภายในตู้เย็น ทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อทำให้อุณหภูมิกลับมาเหมือนเก่า

http://www.lgblogger.com/trick-refrigerator/