หน้า 1 จากทั้งหมด 1

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 15, 2006 2:11 am
โดย เอก O2
อะโวคาโดทำให้ผิวคุณสวยจากภายใน เพราะอะโวคาโดมีวิตามินมากมายหลายชนิดและกรดไขมัน

ส่วนผสม ปอกอะโวคาโด ๑ ผล นำไปปั่นผสมกับน้ำมะนาวครึ่งลูก ใส่เกลือและพริกไทยเล็กน้อยเพื่อเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านขึ้นอีก แล้วเติมนมลงไปอีก ๐.๔ ลิตร ปลุกภูมิคุ้มกันโรค

สีม่วงปลุกภูมิคุ้มชีวิต "บิลเบอร์รี่" มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรง

ส่วนผสม บิลเบอร์รี่ ๔๐๐ กรัม (สดหรือแช่แข็งก็ได้) ล้างให้สะอาดและปล่อยให้สะเด็ดน้ำ นำไปปั่นผสมกับน้ำเชื่อม ๒ ช้อนโต๊ะ ใส่อบเชยลงเล็กน้อย

เครื่องดื่มค็อกเทลชาเขียว ทำให้วันที่อากาศร้อนๆสดชื่นขึ้นได้ แถมยังทำให้กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

ส่วนผสม ชงชาเขียว ๒๐๐ มิลลิกรัมทิ้งไว้ ๕ นาที กรองเอาใบชาเขียวออก ใส่น้ำเชื่ม ๒ ช้อนโต๊ะ เหยาะน้ำมะนาวลงไปครึ่งซีก หากชอบเย็นๆให้ใส่น้ำแข็งลงไปและประดับด้วยใบสะระแหน่

น้ำสับปะรดให้รสอร่อยและยังช่วยลดความอ้วน เพราะสับปะรดช่วยขจัดน้ำและสารพิษในร่างกายและกล้วยทำให้อิ่มนาน

ส่วนผสม หั่นกล้วย ๑ ผล น้ำผึ้ง ๑ ช้อนโต๊ะ มะพร้าวขูด ๑ ช้อนโต๊ะ น้ำสับปะรด ๒๐๐ มิลลิกรัม แล้วปั่นเข้าด้วยกัน

ผอมสวยด้วยสตรอเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ผสมราสเบอร์รี่ช่วยให้หุ่นดีเพราะมีวิตามินซีและโพแทสเซียม ช่วยขจัดไขมัน

ส่วนผสม ต้มชาผลไม้ ๕๐๐ กรัม ปล่อยให้เย็น เทชาผลไม้ออกครึ่งหนึ่งแล้วใส่น้ำแข็งลงไป ใส่สตรอเบอร์รี่และแอปริคอต หั่นชิ้นเล็กๆหน่อย อย่างละ ๕๐ กรัม ราสป์เบอร์รี่ ๕ ลูก ผสมกับน้ำผึ้ง ๑ ช้อนชา กระปรี้กระเปร่า

น้ำมะม่วงเอร็ดอร่อยและเสริมพลังเซ็กซ์ เพราะมะม่วงช่วยในการผลิตฮอร์โมนและมีวิตามินเอสูง ทำให้สายตาดีและผิวสวยอีกด้วย

ส่วนผสม มะม่วงสุก ๑ ผล หั่นเอาแต่เนื้อ ใส่ในเครื่องปั่นผลไม้ผสมกับน้ำมะนาวเล็กน้อย และมะพร้าวขูด ๒ ช้อนชา เสร็จแล้วเทใส่แก้ว เติมน้ำแอปเปิ้ลลงไปผสม ให้ความสุข

ในมะเขือเทศมีวิตามินและแร่ธาตุและช่วยป้องกันมะเร็งได้อีกด้วย

ส่วนผสม มะเขือเทศ ๕๐ กรัม น้ำเชื่อม ๑๕ กรัม น้ำเปล่าต้มสุก ๒๐๐ กรัม หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็กๆใส่เครื่องปั่นจนละเอียด ผสมกับน้ำเชื่อมและเกลือที่เตรียมไว้ โรยด้วยพริกไทยเล็กน้อย ใส่ตู้เย็นไว้ให้น้ำมะเขือเทศมีความเย็นก่อนเสริฟ

ข้อมูลจากเว็บโหระพา ครับผม

โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ ก.พ. 15, 2006 4:42 pm
โดย เอก O2
บิลเบอร์รี่ (Bilberry) เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ในตระกูล Ericaccae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Vaccinium myrtillus ซึ่งเป็นพืชสายพันธุ์ใกล้เคียงกับ Blueberry ของแถบอเมริกาเหนือ เราจะพบบิลเบอร์รี่ มากในประเทศแถบยุโรป แคนาดา และสหรัฐอเมริกา ในอังกฤษและยุโรปตอนเหนือมักจะนิยมนำผลบิลเบอร์รี่สุกมาทำเป็นแยมมานานกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว นอกจากนี้ยังนำส่วนของใบและก้านไปทำเป็นผลแห้งเพื่อทำเป็นผงชาสำหรับดื่มเพื่อสุขภาพกันอย่างแพร่หลายอีกด้วย

บิลเบอร์รี่ เริ่มฮิตติดอันดับเครื่องดื่มสุขภาพหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ จากการที่นักบินในหน่วยทหารอากาศของประเทศอังกฤษนำผลบิลเบอร์รี่สุกมารับประทาน แล้วพบว่าทำให้ความสามารถในการมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น และทำให้อาการเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อใช้สายตานานๆ น้อยลง หลังจากนั้น อีกถึง ๒๐ ปี จึงได้มีการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์กันอย่างจริงจัง ว่าทำให้บิลเบอรี่จึงให้ผลดีต่อสุขภาพของดวงตาอีกครั้งหนึ่ง จากผลการวิเคราะห์และวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากหลายๆ ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี ได้ค้นพบว่าสารที่สำคัญในบิลเบอร์รี่ มีดังนี้

◊ แอนโธไซยาโนไซด์ (Anthocyanosides) สามารถจับกับเซลล์บุผิว(pigmented epithelium) ที่จอภาพเรตินาได้ดี โดยมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดีเลิศ (Anti-oxidant) ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ และคืนสภาพสาร rhodopsin ได้หลังจากถูกแสง จึงช่วยทำให้การมองเห็นในที่มืดได้ดี
◊ แทนนิน (Tannins) มีฤทธิ์ในการสมานแผล (Astingent) และให้ผลในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เช่น พวกแบคทีเรียบางชนิด
◊ ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ (Anti-oxidant) เช่นกัน และยังเป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมนหลายชนิดที่สำคัญต่อมนุษย์
◊ กลูโคควินิน (Glucoquinine) )เป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นให้การทำงานของอินซูลิน ทำให้การควบคุมน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น

ประโยชน์ของอาหารเสริมที่สกัดจากบิลเบอร์รี่ต่อสุขภาพดวงตา

◊ ช่วยถนอมดวงตา ทำให้การมองเห็นในที่มืดดีขึ้น
◊ ช่วยรักษาอาการตาบอดกลางคืน ( Night blindness)
◊ ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา เมื่อใช้สายตานานๆ
◊ ช่วยป้องกันเลนส์ตาและช่วยให้คอลลาเจนในตาในส่วน cornea และหลอดเลือดฝอยแข็งแรงขึ้น
◊ ช่วยลดอนุมูลอิสระในจอตา ทำให้ป้องกันอาการเสื่อมที่มักจะเกิดกับดวงตาให้น้อยลงได้ เช่น ต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ ตาเสื่อมในคนสูงอายุ (สายตายาว)

สรรพคุณอื่นๆ ที่ค้นพบนอกจากนี้คือ

◊ พบว่าสารแทนนิน ในผลบิลเบอร์รี่สามารถบรรเทาอาการท้องเสีย อาการคลื่นไส้ และภาวะอาหารไม่ย่อยได้
◊ พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ สามารถลดอาการปวดเจ็บจากภาวะเส้นเลือดขอด (Varicose vein) ได้ เนื่องจากภาวะดงกล่าวเกิดจาก ความเสื่อมของเซลล์เช่นกัน
◊ พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ สามารถใช้ลดอาการอักสเบในช่องปาก และเยื่อบุช่องปากได้
◊ พบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ ช่วยลดอาการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ที่ทให้เกิดจุดด่างดำของผิวพรรณได้

ปัจจุบันจึงได้มีการจดบันทึกว่า บิลเบอร์รี่เป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง จึงมักนิยมนำมาเป็นอาหารเสริม และได้รับความสนใจในการนำมาใช้ในการรักษาสุขภาพในปัจจุบัน สำหรับคนสุงอายุ หรือคนที่ต้องการถนอมดวงตาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นและนานๆ