ครัวไกลบ้าน

วันนี้ป้าอ้อได้มะม่วงเปรี้ยวมา 2 ลูก นึกครึ้มอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวาน แถมเพิ่งไปถอยกะปิมาสดๆร้อนๆ เลยเคี่ยวน้ำปลาหวาน เปิดพัดลมดูดอากาศตัวใหญ่แล้วนะคะ แต่กลิ่นกะปิเจ้ากรรมมันแรงมากมาย จนคุณพี่อ้วนมาถามป้าอ้อว่ากลิ่นอะไรเหมือนกลิ่นถุงเท้าจากคนเท้าเน่า....พยายามหาวิธีกำจัดกลิ่นอยู่ค่ะ ขนาดเปิดพัดลมดูดอากาศตัวใหญ่แล้ว ฉีดสเปรย์ดับกลิ่นแล้ว กลิ่นก็ยังอยู่
คุณน้องตาต้าเพื่อนในครัวเราก็บอกว่าให้เอากาแฟมาลองเผาดู ป้าอ้อก็ทำแล้ว 5 รอบ ไม่ได้ผลค่ะ กลิ่นกาแฟไหม้ปนกะกลิ่นกะปิไปกันหนักเลย ใครพอจะทราบวิธีกำจัดกลิ่นกะปิบ้างคะ ตอนนี้คุณสามีหน้าหงิกเป็นตูดไก่แล้วค่ะ แงๆๆๆๆ

อ้อ มีเทียนหอมปะ กลิ่นอะไรก็ได้ วนิลา วาเลนเดอร์ อะไรก็ได้ จุดไว้สักพัก เด่วก็หาย
อิอิ ที่บ้านก็พอๆกัน กะใช้วิธีจุดเทียน ไม่ก็ การบูน(ไม่รู้เรืยกแบบนี้เปล่านะ) ที่เป็นเหมือนธูปหอมนะ ขอให้หายเหม็นนะ จะได้ ต้มปลาร้าต่อได้ คริๆ

ขอบคุณจ้าพิม เดี๋ยวจะไปจุดเลย

กลิ่นกะปินี่แก้ยากเหมือนกันนะคะ ครัวบ้านพี่พิม ไม่อยากต้อนรับแขกเลยค่ะ เหม็นครัวมาก เพราะทำน้ำพริกขายน๊อ กะปิก็มีในบางรายการ แก้ไม่หายสักที ทุกอาทิตย์ต้องเอาม่านซักค่ะ จุดเทียนหอม หรือสเปรย์ปรับอากาศไงก็ไม่หายค่ะ ยิ่งหน้าหนาวด้วย ไปกันใหญ่เลยน้องอ้อ

พี่พิมตอนนี้อ้อจุดเทียนหอม 3-4 เล่มในครัวทิ้งเอาไว้ค่ แล้วก็เปิดพัดลมดูดอากาศด้วย กลิ่นยังไม่จางเลย พี่อ้วนถามใหญ่เลยว่ามันกลิ่นอะไร เฮ้อ...สงสัยจะทำอะไรเกี่ยวกับกะปิต้องเอาไปทำนอกบ้านแล้วล่ะค่ะ แต่ก็กลัวเพื่อนบ้านจะแตกตื่นกลิ่น

เวลาที่ซ่าทำ "น้ำข้าวยำ" น่ะค่ะ มีทั้งกะปิ ปลาเค็ม อู๊ย...เกินคำบรรยาย ค่ะ ...อิอิอิ วิธีการแก้ปัญหา เรื่องกลิ่นของซ่าน่ะค่ะ..ก้อคือ ซ่าจะเอาน้ำส้มสายชู เทในถ้วยน้ำจิ้มน่ะค่ะ..แล้ววางไว้ใก้ล ๆ กะที่เราทำอาหารค่ะ ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน และ ก้อ จุดธูปหอมน่ะค่ะ...กลิ่นก้อจะหายไปเอง ..ลองดูน่ะคะ.... EM120

ขอบคุณค่ะน้องซ่า เดี๋ยวป้าเทน้ำส้มสายชูใส่ถ้วยเอาไปตั้งเลยค่ะ

มาขอบคุณพิม บันนี่ พี่พิม แล้วก็น้องซ่าจ้า ทำตามหมดทุกวิธีแล้วค่ะ ตอนนี้กลิ่นจางลงไปมาก คาดว่าพรุ่งนี้กลิ่นกะปิเจ้ากรรมคงจะหายไป ดีใจจังเลยพี่อ้วนหายหน้าหงิกแล้ว แต่ยังไม่วายถามว่ากลิ่นอะไร ถุงเท้าเน่าที่ไหน 5555+

หนูก็ใช้เทียนค่ะ หอมๆ หรือไม่ก็ เปลือกส้มค่ะ กินเนี้อ แล้วก็ ทิ้งเปลือกไว้ในครัวค่ะ
แต่หนูไม่ค่อยได้ทำ กะปิ เท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าแฟนหนูไม่ชอบนะ ขนาด หลน ปลาร้า แฟนหนู
ยังไม่สนเลย เธอบอกว่า ถ้าเธอกินได้ ฉันไม่สนหรอก ทำกินไปโลด หนูเลย สบาย
ไปในเรื่องกลิ่น

เวลาผิงต้มน้ำปลาร้าหรือทำอาหารที่มีกลิ่นแรงมากๆ ผิงจะต้มน้ำผสมกับน้ำส้มสายชูไปด้วยแล้วเปิดพัดลมดูดอากาศ พอต้มน้ำปลาร้าเสร็จเราก็ต้มน้ำส้มสายชูต่อประมาณห้านาที กลิ่นไม่มีติดบ้านเลยคะ

เคยอ่านแว๊บๆๆจากไหนจำไม่ได้ละ เค้าบอกว่าให้จุดไม้ขีดไฟ แล้วเป่าให้ดับ ซักสี่ห้าก้าน ควันของไม้ขีดไฟจะช่วยดับกลิ่นได้

เจ้เองเคยทำกะปิหวานจิ้มแอปเปิ้ลเขียว ในรถแคมปิ้งคาร์ เหอๆกลิ่นติดรถไป ๑ อาทิตย์เต็มๆ โชคดีที่พี่อ้วนมันไม่ว่าอะไร แค่บอกว่ากลิ่นกะปิแรงมากมาย เมียจะกินอะไรกลิ่นแรงแค่ไหนพี่อ้วนทนได้เสมอ ๕๕๕๕๕

มาบอกข่าวดีจ้า กลิ่นหายไปแล้ว 2 วันเต็มๆ ทำทุกวิธีที่เพื่อนๆแนะนำมาเลยจ้า ดีนะที่กลิ่นหายไปแล้ว ไม่อย่างนั้นโดนพี่อ้วนบ่นอีกแน่ๆ เมื่อวานยังมีคาใจมาถามว่า ถามจริงๆเหอะมันกลิ่นอะไร เลยต้องไปเอากระปุกกะปิตัวดีมาให้พี่แกดู แต่บอกว่าห้ามเปิดนะ 555(เห็นท่าจ้องจะเปิด) เค้าถามว่ามันทำมาจากอะไร ป้าอ้อเลยบอกว่า กระปุกรวมศพกุ้งตัวเล็กๆ กร๊ากๆๆ ทำหน้า งง แล้วถามว่าตกลงเธอกินมันไปแล้วใช่ไหม แล้วทำหน้ารังเกียจป้าอ้อสุดๆ (อยู่กันมาไม่เคยกินกะปิเลยค่ะ เพิ่งจะมากินปีนี้ค่ะ พี่เค้าเลยไม่คุ้นกลิ่น)

ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาแนะนำวิธีกำจัดกลิ่นกะปิให้นะคะ ไว้จะหาโอกาสกินมันอีก 5555++

aorangelus เขียน: ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาแนะนำวิธีกำจัดกลิ่นกะปิให้นะคะ ไว้จะหาโอกาสกินมันอีก 5555++

<span style='color:green'>คุณป้าอ้อคะ มาคุยด้วยเล่นๆ นะคะ ไม่รู้หรอกว่าจะทำให้กลิ่นกะปิหายไปได้ไง รู้แต่ว่าตกลงกับพ่อหวานใจ ว่าถ้าตราบเท่าที่ฉันทนได้เวลาเธอกินบลูชีสเหม็นๆ ขึ้นรา้ (เหม็นสะบัดเลยค่ะ) เธอก็ต้องทนกับกลิ่นกะปิของฉันได้เหมือนกัน...

ตกลงเราปรองดองกันด้วยวิธีนี้ค่ะ แต่ต่างฝ่ายต่างพยายามไม่กินบ่อย เพราะวันไหนที่เขากินบลูชีส หรือเรากินกะปิ วันนั้นคือวันที่ปราศจากการ kiss กันไปโดยปริยาย...อิอิ...กลิ่นบลูชีสมันเหมือนส้วมแตกน่ะ เราไม่อยาก kiss ส้วมแตก เขาก็คงไม่อยาก kiss ถุงเท้าเน่าเหมือนกันนะคะ...ก๊าก..</span>

คุณปุยคะ พูดถึงชีสที่กรีซมีชีสที่กลิ่นเหม็นกว่าบลูชีสอีกค่ะ แล้วพี่อ้วนของป้าอ้อก็ชอบม๊าก มาก กินได้กินดีทุกวัน เฟต้า ชีสค่ะ ทำมาจากนมแพะ เหม็นๆ เค็มๆ เป็นที่นิยมของคนกรีกมาก มีกินกันทุกมื้อ ทุกบ้าน ไม่แน่ใจว่าที่แคนาดามีขายหรือเปล่านะคะ ทีของเขา เขาไม่ยักกะเหม็น ทีของเราเหม็นได้เหม็นดี ว่าแต่ว่าจะทำกลิ่นกะปิหมดจากปากเรายังไงดีนี่สิ แปรงฟันก็แล้วก็ไม่หมด บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากแล้วมันก็ยังอยู่ค่ะ สตรอ กะปิ ชะอม กระเทียม กลิ่นพวกนี้ทำเอาหมดความมั่นใจหลังอิ่มอร่อยได้เหมือนกันนะคะ

aorangelus เขียน: คุณปุยคะ พูดถึงชีสที่กรีซมีชีสที่กลิ่นเหม็นกว่าบลูชีสอีกค่ะ แล้วพี่อ้วนของป้าอ้อก็ชอบม๊าก มาก กินได้กินดีทุกวัน เฟต้า ชีสค่ะ ทำมาจากนมแพะ เหม็นๆ เค็มๆ เป็นที่นิยมของคนกรีกมาก มีกินกันทุกมื้อ ทุกบ้าน ไม่แน่ใจว่าที่แคนาดามีขายหรือเปล่านะคะ ทีของเขา เขาไม่ยักกะเหม็น ทีของเราเหม็นได้เหม็นดี ว่าแต่ว่าจะทำกลิ่นกะปิหมดจากปากเรายังไงดีนี่สิ แปรงฟันก็แล้วก็ไม่หมด บ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากแล้วมันก็ยังอยู่ค่ะ สตรอ กะปิ ชะอม กระเทียม กลิ่นพวกนี้ทำเอาหมดความมั่นใจหลังอิ่มอร่อยได้เหมือนกันนะคะ

<span style='color:green'>มีค่ะป้าอ้อ ที่นี่มีทุกชีสเลยค่ะ ปรกติปุยก็กินได้นะ ชอบด้วยค่ะ
แต่บางชนิดมันเหม็นเหลืออด โดยเฉพาะพวกที่มีราขึ้นและเป็น old cheese
วิธีกำจัดกลิ่นปากหลังกินกะปิ ปุยใช้อม<span style='color:red'>ยินตัน</span>ค่ะ
กลับไทยทีซื้อมาเพียบ เดี๋ยวนี้เขามีแบบเป็นแผ่นเล็กๆบางๆ ด้วยค่ะ
อมปุ๊บละลายในปาก รู้สึกจะเป็นลิสเตอรีนแผ่น ยินตันแผ่น
มีหลายยี่ห้อ เป็นของญี่ปุ่นทำ ที่กรีซมีมั้ยคะ?
ปุยว่ากำจัดกลิ่นปากเฉียบพลันได้พอสมควร ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์
แต่ก็ใกล้เคียงค่ะ...</span>