ครัวไกลบ้าน

เชื่อมลูกเชอรี่ทีไรถ้าไม่ใส่ตู้เย็นไม่กี่วันราจะลอยขึ้นมาเป็นฝาเลย ยิ่งตอนนี้อากาศร้อนด้วย น้ำเชอรี่ด้วยสามวันเป็นรา ใครทราบวิธีเชื่อมและเก็บโดยที่ไม่ต้องแช่ตู้เย็น รบกวนด้วยค่ะเพราะเยอะมากไม่มีที่แช่แล้วค่า

แม่หมั่นโถ.ขอเข้ามานั่งรอ..คำตอบเป็นเพื่อนคุณtimmimiค่ะ..เพราะเจอปัญหาเหมือนกันเลย..เรามีอยู่สามต้นใหญ่ๆ..ทำแยมก็แล้ว..ทำน้ำเชอรี่ก็แล้ว..เข้าตู้เย็นก็แล้ว..ให้เพื่อนบ้านมาเก็บไปบ้าง..มันก็ยังเหลืออีก..นึกถึงตอนทำเค้ก..ช่วงฤดูหนาวๆไม่มีผลไม้สดๆ..อยากเชื่อมเป็นลูกๆ..ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ..ใครทราบ..แวะบอกเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ..

MHUNTHOW เขียน: แม่หมั่นโถ.ขอเข้ามานั่งรอ..คำตอบเป็นเพื่อนคุณtimmimiค่ะ..เพราะเจอปัญหาเหมือนกันเลย..เรามีอยู่สามต้นใหญ่ๆ..ทำแยมก็แล้ว..ทำน้ำเชอรี่ก็แล้ว..เข้าตู้เย็นก็แล้ว..ให้เพื่อนบ้านมาเก็บไปบ้าง..มันก็ยังเหลืออีก..นึกถึงตอนทำเค้ก..ช่วงฤดูหนาวๆไม่มีผลไม้สดๆ..อยากเชื่อมเป็นลูกๆ..ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ..ใครทราบ..แวะบอกเป็นวิทยาทานด้วยค่ะ..

แหะ แหะ ไม่ืทราบวิธีเหมือนกันคะ แต่แวะเข้ามาบอกว่า อยากย้ายไปอยู่ใกล้ๆๆจังเลยคะ
เชอรี่ของโปรดเลย มีหวัง เหมา กินสดๆๆๆคนเดียวอ่ะคะ

<span style='color:purple'>ที่บ้านทำแบบนี้ค่ะ
ล้างเชอรี่ดีๆ บรรจุขวดแก้ว เติมน้ำตาลทราย ๓ ช้อนโต๊ะ
เติมน้ำสะอาดจนเต็มขวดโหล
ปิดฝาด้วยเครื่องปิดให้สนิทแน่นหนา
จับขวดเรียงในหม้อนึ่งฆ่าเชื้อ ใส่น้ำครึ่งหม้อนึ่งฆ่าเชื้อ
เปิดไฟแรง ตั้งหม้อพอน้ำเริ่มเดือดได้ที่หรี่ไฟมาที่ไฟกลาง
พอปรอทแจ้งว่าความร้อนได้ ๑๐๐ องศาเซลเซียสปิดไฟ ทิ้งไว้นั่นแหละคะ
ที่บ้านจะทำตอนเย็น ทำเสร็จก็ทิ้งให้แย็นคาเตาไว้อย่างนั้น ตื่นเช้ามาค่อยจัดการเอาเชอรี่ในขวดแก้วไปเก็บในห้องใต้ดิน
ได้กินเป็นปีสองปีเลยค่ะ...ไม่เคยขึ้นรา ทำขนมอร่อยมากกกกก
พรุ่งนี้จะเอารูปหม้อนึ่งสมัยสงครามโลกมาให้ดูเผื่อคุณๆแม่บ้านนึกภาพไม่ออก อิอิ

ปล.ผลไม้อื่นๆที่นี่ก็ทำแบบเดียวกันค่ะ แอพพิคอททำปีที่แล้วยังเหลือไว้ทำฟรุตสลัดหลายขวดเลย เหมี่ยวคิดว่าถ้าเรานึ่งฆ่าเชื้อดี ปิดฝาขวดสนิท ก็หมดห่วงเรื่องราได้เลยค่ะ

ส่วนรสชาติของเชอรี่ ก็อร่อยเหมือนเดิม ไม่หวานน้ำเชื่อมเลย น้ำเชอรี่ที่ได้ก็อร่อยไม่หวานมากเหมือนน้ำผลไม้ทั่วไป ดื่มเย็นๆชื่นใจมากค่ะ</span>

ขอบคุณเพื่อน mhunthow กับเพื่อน pensij ที่เข้ามานั่งรอ(ตบยุง)คำตอบเป็นเพื่อนกันนะคะ
และต้องขอบคุณเพื่อน marfy ที่ให้คำตอบที่ละเอียดรู้ลึกรู้จริง แจ่มจริงๆค่า แต่อยากเห็นหน้าตาเจ้าหม้อนึ่งจังค่ะ มีอันหนึ่งเหมือนกันเป็นสมบัติเจ้าคุณย่า แต่ใช้บ่เป็นมันโบราณมากขอ
บอก ตรงกลางเป็นแกนเหล็กทำความร้อนแต่เหมือนจะเป็นสีสนิมหน่อยๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยากจะดูหม้อของเพื่อนmarfyให้ชัดเผื่อกันเคียงกับของเรา (หม้อนึ่งนะคะ) ขอบคุณค่ะ

มาแล้วค่ะ...
หม้อใบนี้ตั้งแต่สมัยคุณปู่คุณย่าของพ่อบ้านเลยค่ะ
[url=]My Webpage[/url]

[url=]My Webpage[/url]

เวลาจะใช้ทีค่อยมาขัดมาล้างกันอีกที เพราะปีหนึ่งใช้แค่ครั้งสองครั้งเอง...

[url=]My Webpage[/url]

นี่ค่ะเชอรี่ที่ได้...เขาขายตามซุปเปอร์มาเก็ทแพงอยู่นะขวดหนึ่ง
ถ้ามีเชอรี่เยอะ ทำแบบแช่น้ำเชื่อมแบบนี้คุ้มค่ะ...สูตรใส่ที่บอกข้างบนรับรองไว่ไม่หวานน้ำตาลค่ะอร่อยมากๆๆ

หมายเหตุ...ตอนเรานึ่งห้ามใส่น้ำในหม้อท่วมปากขวดโหลแก้วที่เราใช้บรรจุนะคะ

ตอนแรกเห็นหม้อตกใจหมดเลยว่ายังใช้งานได้จริงหรือนี่(ว่าขอตัวเองเก่าแล้วน่ะ ha ha ha) แต่ดูผลงานแล้วผ่านค่ะผ่านหน้าตาสวยงามค่ะ สวยกว่าที่ขายในซุปเปอร์มาเก็ตที่เยอรมันอีก แถมยังเก็บได้เป็นปีอีก ยกนิ้วให้ค่ะ แต่ว่าเม็ดยังอยู่หรือเปล่าค่ะ ถ้าจะเอาออกจะต้องทำอย่างไรละทีเนี่ยแบบไม่ให้มันเละ แต่ก็ขอตบท้ายด้วยคำว่า ขอบคุณหลายๆค่ะ K.marfy

<span style='color:green'>ทำทุกปีไม่เคยเอาเม็ดออกค่ะ...
เวลาจะทำขนม หรือเอามาทำฟรุตสลัดค่อยมาแกะเม็ดอีกที
คิดว่าที่คนที่นี่เชื่อมเป็นลูกๆเพราะต้องการให้เนื้อเชอรี่ยังแข็งอยู่มั้งคะ
เพราะเชอรี่ในขวดที่ทำจะยังคงเนื้อแน่นสวยไม่เละ นะคะ

ฮ่าๆๆ บอกแล้วว่าหม้อสมัยสงครามโลก(ครั้งที่๒)จริงๆนะ ก็สมัยคุณปู่คุณย่าของพ่อบ้านนู่นแหนะ เป็นมรดกตกทอดของแท้เลย นี่ขนาดใช้งานแค่ปีละครั้งสองครั้งเฉพาะเวลาต้องการนึ่งฆ่าเชื้อผลไม้แบบนี้เท่านั้น...ถ้าใช้ทุกๆวันจะมีสภาพยังไงคิดดู

แม้แต่ถ้วยชาม จาน หม้อ กระทะ ของใช้ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ก็ใช้ของที่มีอยู่สมัยคุณพ่อคุณแม่ของสามีแต่งงานกันใหม่ๆค่ะ...ฮ่าฮ่าฮ่า...เคยซื้อของใหม่ๆสวยๆบางอย่างเข้าบ้านและโดนพ่อสามีงอนไปหลายตลบเลย...เรื่องนี้ทำเอาหนูเหมี่ยวบ่นๆกับสามีบ่อยครั้งเหมือนกัน...ของทุกอย่างถ้าไม่พังหม้อกระทะหูไม่ขาดห้ามทิ้ง...ไม่งั้นพ่อปูมีงอน</span>

ขอขอบคุณ คุณmarfy และ เจ้าของกระทู้ค่ะ.. แม่หมั่นโถอยากทำเชอรี่แบบนี้หล่ะค่ะ เพราะมันเยอะจริงๆ .. ปีนี้ก็ทำได้แค่..ใส่ถุงเข้าตู้ฟรีช.. เอาไว้..ปีหน้า..แม่หมั่นโถจะทำสูตรของคุณ marfy (ชอบใจหม้อนึ่งมาเลยค่ะ..นุชคงนึ่งในซึ้งหล่ะค่ะ..เพราะที่บ้านไม่มีหม้อนึ่ง..รุ่นนี้.. ..)

คุณmarfyค่ะ..แม่หมั่นโถสงสัยค่ะ..เติมน้ำสะอาดจนเต็มขวดโหล..น้ำที่ว่านี่ใช้น้ำจากก๊อกเลยได้ใช่มั้ยค่ะ..??

ตอบแม่ MHUNTHOW เหมี่ยวว่าหม้อนึ่งความดัน(นึ่งฆ่าเชื้อน่ะค่ะ)แบบนี้แม่หมั่นโถหาซื้อได้แน่นอน
แบบใช้ไฟฟ้าก็มีนะคะ...เห็นพ่อบ้านเสริทให้ดู...และก็มีแบบที่เหมี่ยวใช้อยู่หลายขนาดเลยค่ะ..
ลองเสริทดูนะคะ เหมี่ยวไม่รู้ว่าภาษาอังกฤษเขาเรียกว่าอะไร
<a href='http://www.bielmeier.cz/zavarovaci-hrnce-vycepni-automaty-bielmeier/' target='_blank'>ลองเข้าไปดูเว็บนี้นะคะ</a>

เติมน้ำจากก๊อกน้ำร้อนที่เราใช้กินใช้อาบนั่นแหละค่ะ
เพราะตอนเราจับนึ่งฆ่าเชื้อน้ำกับน้ำตาลมันก็ต้มไปในตัวของมันเอง
ที่สำคัญต้องแป๊กฝาขวดให้สนิทเลยนะคะ...อันนี้สำคัญมาก

สวัสดีเพื่อนๆทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ได้เข้าไปอ่านเจอในตำราอาหารเยอรมัน ถ้าไม่มีหม้อนึ่งแบบคุณเหมี่ยวใช้หม้อตุ๋นอัดความดันได้ค่ะเวลาตุ๋นจะไวกว่า ใช้เวลาไม่เกินสิบนาที หรือใช้อบในเตาอบก็ได้แต่เวลาอาจจะนานกว่าหม้ออัดความดันอีักหน่อยค่ะ เมื่อวานนี้ดองลูกมิราเบลรสชาติจะคล้ายมะดันหรือมะยมดองบ้านเรา ก็ใช้หม้อนึ่งคล้ายๆของคุณหนูเหมี่ยวแต่เก่าขนาดหลังสงครามโลกครั้งที่สองนิดหน่อยค่ะ มันจะได้ไม่เป็นรา เก็บไว้เป็นปีมีของอร่อยจิ้มพริกเกลือกินแล้วแต่ต้องรอให้ครบสามวันก่อน พูดแล้วน้ำลายไหล เอื้อก.....

timmimi เขียน: สวัสดีเพื่อนๆทุกๆคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ได้เข้าไปอ่านเจอในตำราอาหารเยอรมัน ถ้าไม่มีหม้อนึ่งแบบคุณเหมี่ยวใช้หม้อตุ๋นอัดความดันได้ค่ะเวลาตุ๋นจะไวกว่า ใช้เวลาไม่เกินสิบนาที หรือใช้อบในเตาอบก็ได้แต่เวลาอาจจะนานกว่าหม้ออัดความดันอีักหน่อยค่ะ เมื่อวานนี้ดองลูกมิราเบลรสชาติจะคล้ายมะดันหรือมะยมดองบ้านเรา ก็ใช้หม้อนึ่งคล้ายๆของคุณหนูเหมี่ยวแต่เก่าขนาดหลังสงครามโลกครั้งที่สองนิดหน่อยค่ะ มันจะได้ไม่เป็นรา เก็บไว้เป็นปีมีของอร่อยจิ้มพริกเกลือกินแล้วแต่ต้องรอให้ครบสามวันก่อน พูดแล้วน้ำลายไหล เอื้อก.....

<span style='color:green'>ขอบคุณ คุณtimmimi มากค่ะที่เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูล
เหมี่ยวว่าหม้อนึ่งเหมี่ยวเก๋าสุดแล้วนะ...ยังมีหม้อเก๋ากว่านี้อีกหรอ เอิ๊กๆ
ว่าแล้วน้ำลายไหล...ไปสอยแอปเปิ้ลเขียวมาจิ้มน้ำปลาหวานแทนลูกมิราเบลก่อนนะคะ</span>