โดย wiwi » จันทร์ พ.ย. 08, 2010 3:05 pm
108 วิธีการทำความสะอาด
>เครื่องใช้ในครัวเรือน
>วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้
>กระทะ คราบไหม้ เติมน้ำยาล้างจานลงไปตั้งไฟให้เดือดกรุ่น ๆ
>จนกว่าคราบรอยไหม้จะหลุดออกมา
>กระทะเคลือบ สกปรก ให้ถูที่ผิวด้วยเบ๊คกิ้งโซดา แล้วล้างในฟองสบู่ที่ร้อน
>ล้างออกอีกครั้งแล้วเช็ดให้แห้ง
>กา, หม้อ หินปูน ใช้น้ำส้มสายชูใส่ แช่ไว้สัก 1 คืน จึงเอาแปรงเล็ก ๆ ขัดออก
>กาต้มกาแฟ คราบกาแฟติดแน่น ใช้เกลือและน้ำในปริมาณสูงเท่ากับระดับกาแฟที่ต้ม
>นำไปต้มหรือ เสียบปลั๊กจนน้ำเดือด จะช่วยขจัดคราบได้
>กาน้ำชา คราบน้ำชา น้ำส้มสายชูต้มจนเดือด นำมาเทใส่กาน้ำชา ทิ้งไว้ 1 คืน
>แล้วล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด
>แก้ว เป็นคราบ ล้างถ้วยแก้วให้สะอาด ผึ่งจนแห้ง แล้วใช้ผ้าฝ้ายลงแป้ง
>เช็ดถูถ้วยแก้ว จะทำให้มองดูเนื้อแก้วใสสะอาด
>แก้วเจียระไน เป็นคราบ ใช้แอมโมเนียเล็กน้อยผสมน้ำอุ่น ขัดถู
>แล้วใช้เบ๊คกิ้งโซดาล้างอีกที จะทำให้ดูแวววาว
>ขวดเกลือ คราบเกลือติดแน่น ใส่น้ำมันมะกอกไว้ในขวด ทิ้งไว้หลาย ๆ วัน
>จึงทำความสะอาด
>ขวดแก้ว สกปรก, มีกลิ่น ใส่เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วเทน้ำลงไปสักครึ่งขวด
>คนจนเกลือละลาย ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ล้างออกด้วยผงซักฟอก
>แล้วใช้น้ำยาล้างจานล้างอีกครั้ง
>เขียง กลิ่นคาว ใช้มะนาวหรือเปลือกมะนาวที่บีบน้ำจนหมดแล้ว ถูเขียงนั้นให้ทั่ว
>แล้วล้างออกด้วยน้ำ
>จาน คราบมัน ใช้กระดาษทิชชูเช็ดก่อน แล้วนำไปแช่ในน้ำร้อน เวลาล้างจะสะอาดดี
>ตะแกรง, ก้นกระทะ สกปรก ใช้กระดาษฟอยล์ที่ห่ออาหารซึ่งเหลือใช้
>ขยุ้มเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ ใช้ขัดก้นกระทะ และตะแกรงได้ดี
>ตู้เย็น คราบเหนียว
>หยดน้ำมันพืชลงบนกระดาษทิชชู่แล้วถูที่รอยเปื้อนนั้นจนสะอาด
>จะไม่ทำลายความเป็นเงาของตู้เย็น
>คราบสกปรก นำผ้าชุบน้ำหมาด ๆ บีบยาสีฟันใส่ นำไปเช็ดคราบสกปรก
>ด้านในสกปรก ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและเบ๊คกิ้งโซดาเล็กน้อย
>จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดแล้วเช็ดให้แห้ง
>มีกลิ่น ใช้ถ่านหุงข้าววางไว้ในตู้เย็น
>หรือใช้เบ๊คกิ้งโซดาเทใส่ถุงแล้วเปิดปากถุงวางไว้ในตู้เย็น
>เตาอบ สกปรก ใช้ผ้าชุบน้ำมันจักรเช็ด
>ท่อน้ำ ตัน เทโซดาไฟกับเกลือ 1 ถ้วยลงในท่อแล้วตามด้วยน้ำร้อน
>ท่อระบายน้ำของอ่างล้างจาน มีกลิ่นเหม็น เทเบ๊คกิ้งโซดา 1 ถ้วยลงไป
>ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงเทน้ำส้มสายชูตามลงไปอีก 1 ถ้วย
>แผ่นไม้ที่ใช้คลึงแป้ง
>สำหรับทำขนม เลอะแป้ง ควรล้างด้วยน้ำเย็นเมื่อเลิกใช้แล้ว
>ถ้าล้างด้วยน้ำร้อนแป้งจะติด ล้างออกยาก
>พิมพ์ขนม หรือถาด สำหรับอบขนมเค้ก คราบดำ, รอยไหม้
>ใส่กระทะต้มในน้ำที่ผสมโซดาซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะ
>ต้มจนกระทั่งคราบดำหลุดออกหมดแล้ว จึงนำมาขัดอีกครั้ง
>ภาชนะที่ไม่ใช่โลหะ รอยเหนียวจากป้ายราคา, สก๊อตเทป
>ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ด (ห้ามใช้กับอุปกรณ์ที่เคลือบแล็คเกอร์ไว้)
>ภาชนะโลหะ รอยเหนียวจากป้ายราคา, สก๊อตเทป ใช้น้ำมันไฟแช็กเช็ดถูออก
>ภาชนะอลูมิเนียม รอยไหม้ ใช้เปลือกส้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ต้มในน้ำเดือด 20
>นาที ใช้สบู่ขัดให้เป็นฟอง รอยไหม้จะค่อย ๆ หลุดไป
>หม้อ, กระทะ กลิ่นคาวปลา นำกากชาใส่แล้วนำไปต้ม
>รอยไหม้ ใช้ผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด จำพวกมะนาว สับปะรด
>ใส่ลงต้มในหม้อที่มีรอยไหม้ จะล้างออกได้ง่าย
>หม้อต้มชากาแฟที่เป็นเครื่องเงิน สกปรกเป็นคราบ
>ใช้เบ๊คกิ้งโซดาขัดดีกว่าใช้ยาขัดเครื่องเงิน
>ไม่มีอันตรายและไม่ทำให้รสชาติของน้ำชากาแฟเปลี่ยนไปด้วย
>หม้อไฟฟ้า, กระทะไฟฟ้า สกปรก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำสบู่ร้อน ๆ เช็ดภายนอกและภายใน
>ห้ามใช้แผ่นขัดที่มีส่วนผสมโลหะขัด
>อ่างล้างจานสแตนเลสชนิดเคลือบเงา สกปรก ใช้เบ๊คกิ้งโซดาขัด
>จะไม่ทำให้เกิดรอยขีดข่วนบนเคลือบเงานั้น
>
>
เครื่องหนัง
>วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้
>กระเป๋าหนัง พื้นเป็นจุด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดตรงรอยเปื้อนเบา ๆ>ใช้ยาขัดหนังทาทับอีกที แล้วจึงเช็ดด้วยผ้านุ่ม ๆ
>เครื่องหนัง ขึ้นรา ใช้ผ้าสะอาดชุบแอมโมเนียเช็ดตรงบริเวณที่มีราขึ้น จะทำให้ราหายไป หรือ ถูที่คราบด้วยจารบี จากนั้นขัดตามปรกติ
>คราบน้ำฝน ถูที่รอยน้ำฝนด้วยแอลกอฮอล์ (ที่ใช้จุดไฟ) เล็กน้อย จากนั้นขัดตามปรกติ
>เปื้อน, ไขมัน, คราบน้ำมัน เพื่อขจัดคราบไขมันออกจากหนัง
>นำดินสอพองละลายน้ำข้น ๆ ถูที่คราบไขมัน ทำให้แห้งแล้วแปรงออก
>จากนั้นขัดตามปรกติ (วิธีนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อหนังและไม่ทำให้สีตก)
>เปื้อนหมึก ในการกำจัดคราบหมึก
>โปะที่รอยเปื้อนหมึกด้วยเบ๊คกิ้งโซดาที่ชื้นและเปลี่ยนผงนี้เมื่อสีจางลง
>ทำจนกระทั่งรอยหมึกหมดไป จากนั้นตากให้แห้ง และขัดตามปรกติ
>เครื่องหนังสีขาว สกปรก ใช้ผ้าเนื้อนุ่มชุบน้ำส้มสายชูเช็ดเบา ๆ
>รอยเปื้อนจะหมดไป
>
>เฟอร์นิเจอร์
>วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้
>เก้าอี้หวาย หย่อน ต้องการให้เก้าอี้หวายตึง
>ให้ล้างเก้าอี้หวายด้วยน้ำสบู่ร้อน ล้างน้ำจนหมดสบู่
>นำออกตากแดดกลางแจ้งให้แห้ง
>เครื่องหนังหุ้มเก้าอี้ เปื้อนหมึกแห้ง ใช้ฟองน้ำชุบนมสดที่เหลือติดก้นกล่อง
>เช็ดรอยเปื้อนทันทีที่เกิดรอยเปื้อน
>โซฟาบุผ้า สกปรก ผสมน้ำกับผงซักฟอกตีจนเกิดฟอง
>ใช้ฟองน้ำชุบฟองนั้นนำมาวางบนรอยสกปรก แล้วใช้ฟองน้ำแห้ง ๆ เช็ดถู
>แล้วนำผ้าชุบน้ำเช็ดอีกครั้ง แล้วเป่าให้แห้ง ด้วยเครื่องเป่าผมหรือพัดลม
>โต๊ะกระจก เทปกาวติดแน่น ใช้มีดคัตเตอร์คม ๆ ปาดออก
>แล้วใช้น้ำมันไฟแช็กเช็ดคราบอีกครั้ง
>โต๊ะไม้ กระดาษติดแน่น ใช้น้ำมันมะกอกชโลมให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าสะอาดถูเบา ๆ
>ใช้ยาขัดสีเข้ม ๆ ถูจะทำให้รอยกระดาษหายไป
>โต๊ะไม้ที่ทาชะแล็ก รอยด่างขาว เกิดจากการวางของร้อน ๆ
>ให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์วางไว้ตรงรอยด่าง 2-3 นาที ถ้าเป็นรอยด่างมาก
>ใช้แล็กเกอร์สเปรย์พ่น แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง จะทำให้รอยด่างหายไป
>ผ้าม่าน สกปรก ใช้น้ำสบู่เย็น ๆ ซัก เมื่อสะอาดแล้วนำไปผึ่งลมให้แห้งพอหมาด ๆ
>โดยแขวนที่ลมโกรกผ่าน อย่านำไปตากแดด หรือรีดด้วยเตารีด เพราะจะทำให้เก่าเร็ว
>พื้นบ้านที่เป็นไม้ไม่ได้เคลือบขี้ผึ้ง ฝุ่นละออง ผสมน้ำส้มสายชู 1 ส่วน 4
>ในน้ำเปล่า 4 ลิตร เช็ดถูพื้นไม้ เท่านี้ก็ช่วยขจัดเศษฝุ่นละอองให้หมดไป
>และจะช่วยให้พื้นเป็นมันวาวอีกด้วย
>เฟอร์นิเจอร์ไม้ ไขมันและหมึก ในการขจัดรอยไขมันและหมึกจากไม้ที่เคลือบเงา
>ผสมน้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ ชุบลงไปที่รอยเปื้อน
>แล้วจึงล้างออกให้หมดตากให้แห้ง จากนั้นขัดเงาตามปรกติ
>น้ำตาเทียน เพื่อลบรอยเทียนไขจากไม้ ขูดรอยน้ำตาเทียนออกเบา ๆ
>ด้วยสันของมีดที่ไม่คม จากนั้นขัดเงาด้วยผ้าชามัวร์
>เป็นรูจากหนอนไม้ จิ้มปลายมีดที่แหลมลงไปที่รูของไม้ที่เกิดจากหนอนไม้
>โดยให้คมมีดอยู่ในทิศเดียวกับแนวของเนื้อไม้ จากนั้นหมุนปลายมีด
>เพื่อทำลายรูนั้นอัดขึ้ผึ้งผสมกับผงของเนื้อไม้ที่รูนั้น
>มีรอยเว้า ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำจนเปียกอัดตรงรอยเว้านั้น
>แล้วรีดที่บริเวณนั้นด้วยเตารีดร้อน ๆ ใยไม้ที่ถูกกดจะขยายกลับคืนสู่สภาพเดิม
>หลังจากนั้นให้ขัดเงาตามปรกติ
>รอยขีดข่วน ให้ใช้ผ้าแตะยาขัดรองเท้าสีเดียวกับไม้ถูตรงรอยนั้น
>แล้วใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง
>รอยด่างขาว ถูรอยขาว ๆ ที่ใช้ไม้ขัดเงาอย่างดีด้วยน้ำมันการบูร
>น้ำยาขัดเครื่องเงินหรือส่วนผสมของขี้บุหรี่กับน้ำมันมะกอก
>จากนั้นจึงขัดเงาตามปรกติ (น้ำยาขัดเงาที่ใช้กับโลหะไม่ควรนำมาใช้กับไม้)
>รอยแตก ใช้ขี้เลื่อยผสมกับกาว
>อุดหรือปะพอแห้งแล้วใช้กระดาษทรายขัดจนเนื้อเรียบสนิท
>รอยไม้ขีดไฟ ถูที่รอยไม้ขีดไฟบนไม้ที่เคลือบเงาด้วยมะนาวครึ่งลูก
>ตามด้วยผ้าที่ชุบน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้าโดยเร็ว จากนั้นจึงขัดเงา
>รอยสกปรก - ใช้น้ำมะนาวขัดล้าง
>- ใช้น้ำมันสน และน้ำมันลีนสีดอย่างละ 1 ช้อนชา ผสมน้ำร้อน คนให้เข้ากัน
>แล้วนำไปขัดเช็ดเฟอร์นิเจอร์ ในขณะที่ยังร้อน
>- ใช้น้ำส้มสายชูครึ่งแก้วผสมน้ำร้อนขัดและเช็ดให้แห้ง
>- ใช้ผงซักฟอกผสมน้ำอุ่นเช็ดขัดผิวไม้จนสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
>เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮ็อกกานี สกปรก
>เช็ดที่ผิวไม้ด้วยส่วนผสมของน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นในอัตราส่วนที่เท่ากัน
>จากนั้นขัดเงาด้วยผ้านุ่ม
>เฟอร์นิเจอร์ไม้วอลนัท สกปรก ถูที่ผิวด้วยน้ำมันก๊าดเล็กน้อย
>โดยใช้ผ้านุ่มและขัดเงาด้วยผ้าชามัวร์
>หวาย สกปรก ล้างด้วยน้ำผสมเกลือ หรือใช้แอมโมเนียผสมน้ำ
>ถ้ายังไม่หมดให้ใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เช็ดอีกครั้ง อย่าใช้น้ำสบู่ล้าง
>เพราะจะทำให้เครื่องหวายเปลี่ยนสี
>
>
>เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
>วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้
>ถุงเท้าผ้าฝ้าย เก่าสกปรก นำมาต้ม แล้วบีบมะนาวใส่ลงไป จะทำให้ถุงเท้าขาวขึ้น
>รองเท้าหนัง เปียกน้ำ นำกระดาษหนังสือพิมพ์ยัดใส่รองเท้าจนเต็ม ทิ้งค้างคืนไว้
>รุ่งเช้าก็จะแห้ง
>รอยขีดข่วน ใช้ไข่ขาวเล็กน้อยถูตรงรอย แล้วขัดยาทับอีกครั้งจะเป็นเงางาม
>เสื้อผ้า กาว ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดที่รอยเปื้อน นำมาแช่ในน้ำเย็น แล้วซักตามปรกติ
>ขี้ผึ้ง วางกระดาษซับบนรอยเปื้อนแล้วกดด้วยเตารีดที่ร้อน
>เปลี่ยนกระดาษจนกระทั่งไขทั้งหมดถูกดูดซับไปหมด ถ้าเป็นผ้าที่บางหรือผ้าไหม
>ให้ใช้กระดาษทิชชูและเตารีดที่เย็นกว่า
>ไข่ ผสมน้ำยาซักผ้ากับน้ำอุ่นซัก
>คราบน้ำตาเทียน ใช้ก้อนน้ำแข็งขูดเกล็ดเทียนออกให้มากที่สุด
>จากนั้นจึงใช้กระดาษประกบบริเวณที่เปื้อนทั้ง 2 ด้าน แล้วใช้เตารีดอุ่น ๆ
>รีดทับจนน้ำตาเทียนซึมออกมาติดกับกระดาษ
>โคลน ปล่อยให้โคลนแห้ง ใช้แปรงปัดออกซักด้วยน้ำเย็นหลาย ๆ ครั้ง
>จนไม่มีน้ำโคลนออกมา จึงซักด้วยผงซักฟอก
>นม ล้างผ้าในน้ำเย็น แล้วซักด้วยสบู่เหลว
>น้ำชา - รีบเทน้ำเดือดลงบนรอยเปื้อนบนผ้าที่ยังเป็นรอยใหม่อยู่
>จนสีจางลงแล้วรีบนำไปซักทันที
>- ให้ซักในน้ำอุ่นกับสบู่ ถ้ายังไม่ออกให้ใช้น้ำยาฟอกขาวเช็ด แล้วจึงซัก
>น้ำผลไม้, น้ำมันพืช ให้ขึงผ้าที่เปื้อนบนปากถัง เทน้ำเดือดลงตรงรอยเปื้อน
>แล้วจึงซัก
>น้ำมันขัดเงา ใช้ฟองน้ำชุบทินเนอร์ทาบริเวณที่เปื้อนในขณะที่ยังเปียกอยู่
>ใช้น้ำยาซักผ้าขยี้ตรงรอยเปื้อนทันที นำมาแช่ในน้ำอุ่นแล้วรีบซักทันที
>น้ำมันดิบ ขูดน้ำมันดิบที่ติดอยู่ออก ด้วยมีดที่ไม่คม แล้วถูด้วยน้ำมันสน
>หรือน้ำมันก๊าด หรือน้ำมันเบนซิน (ห้ามใช้น้ำเด็ดขาด)
>น้ำส้มสายชู ผสมแอมโมเนีย 1 ช้อนชา ในน้ำ 2 ถ้วย (ครึ่งลิตร) แล้วแช่ 2-3 นาที
>ล้างออกแล้วซักตามปรกติ
>น้ำหมาก, น้ำหมึก ก่อนซักให้นำเกลือป่นโรยตรงรอยเปื้อน
>แล้วบีบน้ำมะนาวลงไปให้ชุ่ม ผึ่งแดดไว้ครึ่งวัน จึงค่อยนำไปซัก
>ปัสสาวะ ให้ซับที่รอยเปื้อนด้วยแอมโมเนียเจือจางหรือเบ๊คกิ้งโซดา
>แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วซักได้ตามปรกติ
>เปื้อนคราบกาแฟ ใช้แป้งข้าวเจ้าถู แล้วซักได้ตามปรกติ
>เปื้อนคราบช็อกโกแลต รีบนำไปแช่น้ำอุ่นทันทีที่เปื้อน
>อาจใช้น้ำยาขจัดคราบฝังแน่นช่วยด้วย จากนั้นนำไปซักแห้ง
>เปื้อนคราบเลือด นำนมข้นทาทันที ทิ้งไว้สักครู่แล้วนำไปขยี้น้ำออก
>เปื้อนคราบเลือดจาง ๆ ใช้เบ๊คกิ้งโซดาผสมน้ำสักเล็กน้อยจนเป็นแป้งข้น ๆ ถูเบา
>ๆ เมื่อแห้งจึงปัดฝุ่นออก
>เปื้อนคราบเลือดฝังแน่น ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำเย็นที่ผสมเกลือจนชุ่มถูเบา ๆ
>จนรอยค่อย ๆ จางลง แล้วใช้น้ำเปล่าถูอีกครั้ง สุดท้ายใช้ทิชชูซับน้ำให้แห้ง
>เปื้อนครีม เนย น้ำมัน นำแป้งที่ใช้สำหรับทาตัวมาโรย
>ใช้กระดาษทิชชูหรือกระดาษบางอื่น ๆ วางทับ นำเตารีดที่มีความร้อนพอสมควร
>ทับบนกระดาษจนแป้งดูดคราบออกจนหมด แล้วจึงนำไปซัก
>เปื้อนน้ำมัน - ใช้เนยหรือมาการีน ทารอยเปื้อน ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง
>นำไปซักกับผงซักฟอก
>- โรยเบ๊คกิ้งโซดาลงบนรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปซัก
>เปื้อนน้ำมันรถ ใช้มะนาวถูบริเวณที่เปื้อนจนรอยเปื้อนจางลง แล้วจึงนำไปซัก
>เปื้อนเบียร์ ซักในน้ำเย็นทันที หรือใช้แปรงจุ่มน้ำเย็นแปรงตรงรอยเปื้อนทันที
>เปื้อนรอยสนิม นำผ้ามาชุบน้ำให้เปียกก่อน บีบน้ำมะนาวลงไปบนรอยเปื้อน
>ทิ้งไว้สักครู่ จึงนำไปซักตามปรกติ
>ผ้าขาวที่ออกสีเหลือง ใช้เปลือกไข่ป่นละเอียดใส่ลงไปในอ่างแช่ผ้า
>ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงซัก
>ผ้าขึ้นรา (เล็กน้อย) - รีบนำผ้าที่ราขึ้นใหม่ ๆ ซักในน้ำสบู่ร้อน ๆ
>ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
>- ให้บีบมะนาวลงไป แล้วแช่ผ้าไว้ในผงซักฟอกสักครู่ จึงซักผ้าตามปรกติ
>มัสตาด ใช้น้ำส้มสายชูถู แล้วรีบนำไปซัก
>ยาแดง เช็ดรอยเปื้อนด้วยแอมโมเนีย หรือซักด้วยน้ำส้มสายชูผสมน้ำ
>ยาทาเล็บ
>ซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำยาล้างเล็บและเช็ดด้วยผ้าที่สะอาดจนกระทั่งรอยเปื้อนจางลง
>(ควรลองหยดน้ำยาล้างเล็บลงผ้าก่อน)
>ยางกล้วย ใช้มะนาวที่ฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ถูตรงรอยเปื้อนที่เป็นคราบดำ
>แล้วรีบนำมาซักทันที
>ยางหญ้า ยางดอกไม้ นำมาซักในน้ำสบู่ที่ข้นและร้อน
>ถ้ายังไม่ออกให้ใช้สารฟอกขาวช่วย
>ลิปสติก - ใช้มันเปลวหมูทาตรงรอยเปื้อน หรือใช้น้ำมันหมูทา
>แล้วจึงซักในน้ำสบู่ร้อน ๆ หรือใช้ผงซักฟอกขาวโรยตรงรอยเปื้อนแล้วขยี้
>แล้วจึงซักตามปรกติ
>- ใช้วาสลินถูตรงรอยเปื้อน แล้วนำมาซักตามปรกติ
>- นำมาแช่ไว้ในน้ำผสมเกลือทิ้งไว้ 1 คืน จะทำให้รอยลิปสติกหาย
>เลอะดินสอ ใช้ยาสีฟันป้ายลงบนรอยดินสอแล้วขยี้
>เลอะปากกาลูกลื่น ใช้ฟองน้ำชุบแอลกอฮอล์เช็ด จนรอยเลอะจางลง แล้วจึงนำไปซัก
>เลอะสีปากกาเมจิก ถูด้วยน้ำมันสน แล้วนำไปซัก
>สีเคลือบเงา ซับที่รอยเปื้อนด้วยน้ำมันสน
>หรือผสมแอมโมเนียกับน้ำมันสนในอัตราส่วนที่เท่ากัน
>แช่ผ้าไว้จนกระทั่งรอยเปื้อนละลายออก จากนั้นซักในน้ำสบู่
>สีน้ำมัน ใช้น้ำมันเบนซินเช็ดรอยเปื้อนให้ชุ่มแล้วใช้น้ำมันสนเช็ดอีกที
>จึงซักทันที
>สีอีมัลชั่น แช่หรือซับรอยเปื้อนที่ยังใหม่อยู่ด้วยน้ำเย็น จากนั้นซักตามปรกติ
>หมากฝรั่ง ขูดยางหมากฝรั่งออกด้วยสันมีด
>แล้วใช้น้ำแข็งถูเพื่อให้ยางนั้นแข็งตัวค่อย ๆ แกะออก
>แล้วใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ด นำไปซักในน้ำสบู่อ่อน
>หมึกจีน ให้ฝนหัวผักกาดขาว ห่อด้วยผ้ากอซ ถูจนรอยเปื้อนจาง แล้วซักตามปรกติ
>หมึกแห้ง ใช้สเปรย์ฉีดผมฉีดตรงรอยนั้น ทิ้งไว้ให้แห้ง
>แล้วใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำอย่างละเท่ากันเช็ดให้แห้ง แล้วนำไปซัก
>เหงื่อ - ซักด้วยน้ำที่ผสมด้วยน้ำส้มสายชูเล็กน้อย หรือน้ำมะนาว
>แช่ผ้าไว้ในน้ำยาซักผ้าที่ทำให้เจือจางในน้ำ จากนั้นซักได้ตามปรกติ
>- ละลายแอสไพริน 2 เม็ด ลงในน้ำ แล้วแช่ผ้าไว้สักครู่ จึงซักตามปรกติ
>เสื้อหนัง สกปรก ใช้ฟองน้ำชุบน้ำแล้วถูกับสบู่ นำมาเช็ดเสื้อหนังจนทั่ว
>ใช้ผ้านุ่มเช็ดอีกที เมื่อแห้งแล้วให้นำแป้งโรยตัว โรยให้ทั่ว
>แล้วจึงใช้ผ้าแห้งขัด
>
> อุปกรณ์อื่น ๆ
> วัสดุอุปกรณ์ ปัญหา วิธีแก้
>กระจก กาวจากรูปลอก ใช้แอลกอฮอล์เช็ด แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ
>เช็ดถูอีกครั้ง
>เปื้อนสีเทียน ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชเช็ด แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ
>เช็ดถูอีกครั้ง
>เปื้อนสีเมจิก ใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างเล็บ แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ชุบน้ำ
>เช็ดถูอีกครั้ง
>สกปรกมีรอยคราบ ใช้น้ำส้มสายชูผสมน้ำในอัตราส่วน 1:3 เช็ด
>แล้วเช็ดตามด้วยผ้านุ่ม ๆ
>กระดาษ คราบสก็อตเทป ใช้แป้งโรยลงไปบนรอยคราบนั้น ใช้มือถูให้แห้ง
>ของใช้ เปื้อนยางมะตอยติดแน่น
>ใช้ผ้าชุบน้ำมันสนเช็ดรอยเปื้อนทิ้งไว้สักครู่แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้ง
>หรือเช็ดจนกว่าคราบนั้นจะหลุดออกไป
>เครื่องเงิน เป็นสนิม คราบ หมอง
>ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูหรือยาสีฟันเช็ดถูแล้วล้างน้ำ
>เช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้งก่อนที่จะหายาขัดได้จริง
>สนิมสีเขียว ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดและใช้ผ้าแห้งขัด รอยเปื้อนจะหมดไป
>เครื่องจักสาน คราบสกปรก ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดถูตรงที่สกปรกและขึ้นรา
>จะทำให้สะอาด
>เชิงเทียน หยดเทียนเกาะ นำไปแช่ในน้ำร้อนที่ผสมแอมโมเนีย 10 นาที
>เทียนจะหลุดลอยขึ้น
>ดอกไม้แห้ง (ผ้า) สีซีด ยับ ให้ตั้งทิ้งไว้เหนือไอน้ำร้อนสักครู่
>สีจะสดสวยเหมือนเดิม
>เตารีด ร้อนจัดจนเกิดรอยไหม้ ใช้ยาสีฟันถูรอยไหม้จนทั่ว
>แล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออกให้หมด
>โทรศัพท์ คราบสกปรก ด่างดำ ให้ใช้สำลีชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ดให้ทั่ว
>ใบไม้ ฝุ่นเกาะ - ใช้น้ำมันพืชเช็ดจะทำให้ใบเงางาม
>- นำสำลีชุบนมสดเช็ดให้ทั่ว
>ปกหนังสือเป็นผ้า รอยนิ้วมือ คราบมัน ให้ถูด้วยขนมปังเก่า หรือยางลบนุ่ม ๆ
>แปรงทาสี เลอะสี แช่แปรงทาสีในน้ำมันสนผสมกับแอลกอฮอล์ในสัดส่วนเท่า ๆ กัน
>ภาชนะทองแดง เป็นสนิม ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดถู แล้วจึงล้างน้ำ
>แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้งอีกครั้ง
>รถจักรยาน เป็นสนิม ใช้เศษผ้าชุบน้ำมันมะพร้าวถู
>แว่นตา มีรอยคราบที่กระจก ใช้แป้งฝุ่นทาให้ทั่ว
>แล้วใช้กระดาษที่บางและนุ่มสะอาดถูให้ทั่ว
>สกปรก ใช้แชมพูล้างทั้งแว่น แล้วเช็ดให้แห้ง
>หวี แปรง สกปรก นำหวี แปรงแช่ในน้ำร้อนที่ผสมแชมพู แล้วใช้แปรงสีฟันขัดถู
>ห้องที่เพิ่งทาสี กลิ่นสี นำหัวหอมเล็ก (หอมแดง) ทุบแล้ววางไว้ในห้อง
>กลิ่นสีจะจางหายไป
>อ่างอาบน้ำ สกปรก ใช้ผงซักฟอกครึ่งถ้วย ผสมเบ๊คกิ้งโซดาครึ่งถ้วย
>ผสมน้ำทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงปล่อยน้ำจากก๊อกล้างอีกที