อากาศวันนี้ช่างเป็นใจให้หมกอยู่แต่ข้างในบ้านซะเหลือเกิน..ไม่มีแดด ไม่มีลม หนาวอย่างเดียว...มาคิดเมนูกับข้าวตอนเย็นกันดีก่า.....มีเนื้อติดเอ็นกับฟักทองติดตู้เย็นพอดี อยากทานแกงกะทิเนื้อแต่ฟันฟางมันไม่ค่อยไหวแล้ว เอ...ลองมาแปลงเนื้อเหนียวๆที่มีอยู่ให้กลายเป็นเนื้อนุ่มๆกันดีกว่า สูตรอาจจะค่อนข้างมั่วๆบ้าง ประมาณว่ามีอะไรใกล้มือ ก็จับใส่ๆลงไป พลิกแพลงใช้วัตถุดิบเท่าที่มีอยู่ก็แล้วกัน มาม๊ะ..เชิญตามยายเข้ามาในครัวกันเลยจ้า.........
แกงคั่วเนื้อเปื่อย สำหรับ 4-5 ที่
เครื่องต่างๆก็ตามนี้ค่ะ
•เนื้อวัวที่มีเอ็นเยอะๆ 1 กก. (ต้มแล้วปริมาณจะลดลง)
•กะทิ 2 กล่อง 400 กรัม (ถ้าเป็นโรคกลัวไขมัน ใช้นมสดไขมันต่ำแทนก็ได้)
•พริกแกงเผ็ด 1/2 ชต. (เพิ่มปริมาณเป็น 2-3 ซต.ถ้าชอบรสจัด)
•เกลือ น้ำตาล น้ำปลา กะปริมาณเอาตอนปรุงรสค่ะ
•หอมใหญ่ 2 หัว
•กระเทียม 4-5 กลีบ
•ก้านเซเลรี(celery) 2 ก้าน (ใช้คึ่นช่ายบ้านเราซัก 1กำแทนก็ได้)
•กระชายทุบหยาบ 4-5 ราก (ไม่มีก็ไม่ต้องใส่)
•ใบโหระพา ตามชอบ
•ฟักทอง หนัก 1 กก. 1 ลูก (มากหรือน้อยกว่านี้ก็ไม่ว่ากัน)
มาจัดการกันเลย
•หั่นฟักทองเตรียมไว้ ชิ้นหนาหน่อยก็ดีนะคะ พอต้มแล้วจะได้ไม่เละ
•หั่นเนื้อให้ชิ้นใหญ่ๆหน่อย เทลงหม้อแล้วตามด้วยน้ำพอท่วมเนื้อนะคะ ถ้าน้ำงวดลงมากถึงเติมน้ำเพิ่มทีหลัง
*หอมใช้ได้ทุกสี ทุกชนิด ไม่ว่าจะแดง ขาว หรือม่วงค่ะ
•ใส่หอม กระเทียม ต้นคึ่นช่าย ที่หั่นหยาบๆตามลงไป เติมเกลือและผงปรุงคนอร์ชนิดไร้ผงชูรส ( No MSG,มีสมาชิกในบ้านแพ้ผงชูรส ก็เลยไม่เคยใช้ชนิดอื่นเลย) ปิดฝาหม้อแล้วเร่งไฟให้น้ำเดือดปุดๆ ซักครู่แล้วค่อยแง้มฝาหม้อต้มต่อด้วยไฟอ่อนอีกประมาณ 2-3 ชม. หรือจนเนื้อนุ่มได้ที่
•เอาซ่อมบี้ดูเนื้อบริเวณที่ติดเอ็น ถ้าเอ็นนุ่มไม่เหนียวก็เป็นอันใช้ได้ ง่ายที่สุดก็ลองเอาเข้าปากเคี้ยวดู อิอิ....จากนั้นตักเนื้อออกจากน้ำซุป ส่วนน้ำซุปห้ามทิ้งนะจ๊ะ เก็บไว้เติมเป็นน้ำแกงต่อ
•แบ่งกะทิประมาณเกือบครึ่ง เคี่ยวหล่อนจนแตกมัน เติมพริกแกงลงไป เคี่ยวต่อซักครู่ให้เครื่องแกงสุก จากนั้นเติมน้ำซุปลงไปซัก 1 1/2 ถ้วย เติมกะทิที่เหลือลงไปซักหน่อย แล้วก็ปรุงรสตามใจชอบค่ะ กะให้เค็มนำไว้นิ๊ดนึง เพราะหลังจากใส่น้องฟักทองที่มีรสชาดค่อนข้างหวานลงไปแล้ว รสเค็มๆที่ปรุงไว้ก็จะจืดจางลง ณ บัดนั้น
• ปรุงรสได้ใจแล้ว ก็จัดการใส่น้องฟักทองลงไป ตามด้วยเนื้อต้มที่พักไว้ อย่าลืมกระชายจัดเธอใส่ลงไปด้วย ถึงช่วงนี้ก็เติมนำซุปและน้ำกะทิที่เหลือลงไป กะพอให้ท่วมเนื้อฟักทองนะคะ ต้มต่อซักสิบนาทีหรือจนเนื้อฟักทองสุก ชิมๆอีกซักหน่อย พอใส่ใบโหระพาก็เป็นอันว่าเรียบร้อย..ได้แกงคั่วเนื้อนุ๊มนุ่มหม้อโตๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ....อิ่มท้องไปอีกทั้งวัน
ปล.1. พอใส่น้องทองลงไปแล้ว อย่าคนบ่อยนะคะ น้องเขาค่อนข้างบอบบาง เดี่ยวผิวพรรณหน้าตาจะ เละเทะไม่น่ากิน อ้อ ถ้าเผื่อใครไม่ชอบโหระพา เปลี่ยนเป็นใบกระเพรา หรือใบมะกรูดแทน ก็จะได้รสชาดแกงคั่วที่แตกต่างออกไป ยายลองใส่ทุกอย่างแล้ว อร่อยแปลกดี คอนเฟิร์มค่ะ.
ปล.2. ถ้าเผื่อชอบน้ำแกงข้นๆมันๆ ก่อนปิดเตาก็เตรียมน้ำกะทิไว้ใส่เพิ่มลงไปอีกซักครึ่งถ้วย..ทีนี้ก็มันสมใจล่ะค้า
ปล 3. แบ่งเนื้อที่ต้มเปื่อยแล้วออกมาปรุงเป็นต้มแซ่บก็แซ่บมากๆ เด้อค่า.....แค่หั่นหอมแดง หอมสด ผักชี พริกผง มะนาว และน้ำปลา ลงไป.. แค่นี้ก็ได้ต้มเนื้อเปื่อยรสเด็ดแย้ววว....แบบว่าได้เมนูแบบทูอินวันไปเลย..
.